15 เมนูอาหารลดพุงราคาถูก หากินง่าย ทำเองได้ที่บ้าน

สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคน! วันนี้เรามาทำความรู้จักกับเมนูอาหารที่ช่วยดูแลรูปร่างและสุขภาพกัน โดยเน้นเมนูที่ทำง่าย ราคาประหยัด และหาวัตถุดิบได้ตามตลาดทั่วไป

เมนูอาหารลดพุงคืออะไร?

เมนูอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีควรประกอบด้วยสารอาหารที่ครบถ้วน ตามหลักโภชนาการพื้นฐาน ดังนี้ 

สารอาหารหลักที่ร่างกายต้องการ

  • โปรตีน  ช่วยซ่อมแซมเซลล์และกล้ามเนื้อ
  • คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน  ให้พลังงานแก่ร่างกาย
  • ไฟเบอร์  ช่วยระบบย่อยอาหารทำงานได้ดี
  • วิตามินและแร่ธาตุ  จำเป็นต่อการทำงานของร่างกาย

หลักการเลือกวัตถุดิบ

  • เลือกวัตถุดิบตามฤดูกาล  ราคาถูกและสดใหม่
  • เน้นผักและผลไม้หลากสี  ได้วิตามินครบถ้วน
  • โปรตีนคุณภาพดีราคาประหยัด  ไข่ เต้าหู้ ถั่ว
  • ธัญพืชไม่ขัดสี  ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต

 

ทำไมเมนูอาหารลดพุงถึงสำคัญ?

จากการศึกษางานวิจัยด้านโภชนาการพบข้อมูลที่น่าสนใจมาก ผลการศึกษาในปี 2023 ที่ติดตามกลุ่มคนกว่า 500 คน พบว่า การรับประทานอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพดี ประมาณ 20-30% ของพลังงานที่ได้รับต่อวัน ช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น นอกจากนี้ การเพิ่มปริมาณผักและผลไม้ในมื้ออาหาร ยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น

การเลือกเมนูอาหารที่เหมาะสม

การเลือกเมนูอาหารเพื่อสุขภาพไม่จำเป็นต้องยุ่งยากหรือซับซ้อน แค่เข้าใจหลักการง่ายๆ 

  1. เน้นอาหารแบบธรรมชาติ เลือกวัตถุดิบที่ผ่านการแปรรูปน้อยที่สุด เช่น ผักสด ผลไม้ตามฤดูกาล เนื้อสัตว์ไม่แปรรูป และธัญพืชไม่ขัดสี ซึ่งยังคงคุณค่าทางสารอาหารไว้อย่างครบถ้วน
  2. ควบคุมปริมาณต่อมื้อ ใช้จานขนาดพอดี แบ่งสัดส่วนอาหารให้เหมาะสม และที่สำคัญคือการทานช้าๆ เคี้ยวให้ละเอียด เพราะจะช่วยให้รู้สึกอิ่มได้ด้วยปริมาณอาหารที่พอเหมาะ
  3. ปรุงอาหารด้วยวิธีที่ดีต่อสุขภาพ เลือกวิธีการปรุงอาหารที่ช่วยรักษาคุณค่าทางสารอาหาร เช่น ต้ม นึ่ง อบ ลดการทอด และใช้เครื่องปรุงในปริมาณที่พอเหมาะ

 

15 เมนูอาหารลดพุงราคาถูก

  1. ไข่ต้มคลุกอะโวคาโด

หลายคนอาจจะคิดว่าอะโวคาโดเป็นผลไม้ราคาแพง แต่ถ้าเลือกซื้อตามฤดูกาลจะได้ราคาที่เหมาะสม

วิธีทำง่ายๆ แค่ต้มไข่ให้สุกกำลังดี นำมาหั่นครึ่งพร้อมกับอะโวคาโดสุก บีบมะนาวนิดหน่อย โรยพริกไทยตามชอบ อิ่มท้องได้สารอาหารครบถ้วน

โปรตีน  ไข่ 1 ฟองให้โปรตีน 6-7 กรัม ไขมันดี  อะโวคาโดอุดมด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว พลังงาน  ประมาณ 250-300 แคลอรี่ต่อหนึ่งที่เสิร์ฟ

เคล็ดลับการเลือกวัตถุดิบ

    • เลือกไข่ไก่เบอร์ 2 ประหยัดกว่าแต่คุณค่าเท่ากัน
    • ซื้ออะโวคาโดตอนใกล้สุก ราคาจะถูกกว่า
    • เก็บอะโวคาโดที่เหลือในตู้เย็นพร้อมเมล็ด ช่วยยืดอายุได้
  1. ข้าวกล้องต้มปลาแซลมอน

ถ้าคิดว่าปลาแซลมอนแพงเกินไป เราสามารถใช้ปลาแช่แข็งที่หาซื้อได้ตามห้างทั่วไป

วิธีทำง่ายๆ แค่ต้มข้าวกล้องให้สุกนุ่ม ใส่ปลาลงไปต้มพร้อมกับซีอิ๊วขาวนิดหน่อย ขิงซอย และต้นหอม

โปรตีน  ปลาแซลมอน 100 กรัมให้โปรตีน 20-22 กรัม คาร์โบไฮเดรตดี  ข้าวกล้องให้ใยอาหารและวิตามินบี พลังงาน  ประมาณ 400-450 แคลอรี่ต่อหนึ่งที่เสิร์ฟ

เคล็ดลับประหยัด

    • เลือกซื้อปลาแซลมอนแช่แข็งแบบแพ็คใหญ่
    • ซื้อข้าวกล้องแบบถุงใหญ่ คุ้มค่ากว่า
    • ใช้ขิงแช่แข็งแทนขิงสด ราคาถูกกว่าและเก็บได้นาน
  1. น้ำพริกปลาทูคู่ผักลวก

เมนูไทยๆ ที่ทำง่าย อร่อย และดีต่อสุขภาพ ปลาทูเป็นแหล่งโปรตีนและแคลเซียมราคาประหยัด ผักลวกช่วยเพิ่มใยอาหาร

วิธีทำง่ายๆ แค่นำปลาทูย่างมาตำกับพริกกระเทียม เติมน้ำมะนาว

คุณค่าทางโภชนาการ

    • ปลาทู  อุดมด้วยโอเมก้า 3 และแคลเซียม
    • ผักลวก  ให้วิตามินและเกลือแร่หลากหลาย
    • พลังงานรวม  ประมาณ 300-350 แคลอรี่

ทริคการเลือกผัก

    • เลือกผักตามฤดูกาล ราคาจะถูกกว่า
    • ซื้อผักหลายๆ อย่างมาแบ่งเก็บ
    • ลวกผักครั้งละมากๆ เก็บไว้ในตู้เย็น
  1. สลัดไก่ฉีก

คุณค่าทางโภชนาการ

    • โปรตีน  25-30g จากอกไก่ต่อหนึ่งที่เสิร์ฟ
    • ใยอาหาร  5-7g จากผักสลัดรวม
    • วิตามินรวม  A, C, K จากผักหลากสี
    • แคลอรี่รวม  300-350 ต่อจาน

วิธีทำแบบประหยัด

    • ใช้อกไก่แช่แข็งแบบแพ็คใหญ่
    • ผักสลัดเลือกผักท้องถิ่นที่มีตามฤดูกาล
    • น้ำสลัดทำเองจากโยเกิร์ตรสธรรมชาติ

เคล็ดลับการเลือกผัก

    • ผักกาดหอม  เลือกสีเขียวสด ไม่ช้ำ
    • แครอท  เพิ่มสีสันและวิตามินเอ
    • แตงกวา  ช่วยเพิ่มความสดชื่น
  1. โจ๊กข้าวโอ๊ตใส่ไข่ลวก

คุณค่าทางโภชนาการ

    • คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน  30g จากข้าวโอ๊ต
    • โปรตีน  12-15g จากไข่และข้าวโอ๊ต
    • ใยอาหาร  6g จากข้าวโอ๊ต
    • แคลอรี่รวม  250-300 ต่อถ้วย

วิธีทำให้อร่อย

    • ใช้น้ำซุปกระดูกไก่ต้มเองแทนน้ำเปล่า
    • โรยต้นหอมและพริกไทยให้หอม
    • แต่งรสด้วยซีอิ๊วขาวนิดหน่อย

ทริคประหยัด

    • ซื้อข้าวโอ๊ตแบบถุงใหญ่
    • ทำน้ำซุปกระดูกเก็บไว้ในตู้แช่
    • ใช้ไข่เบอร์ 2 ประหยัดกว่าแต่คุณค่าเท่ากัน
  1. เต้าหู้ไข่ตุ๋นทรงเครื่อง

คุณค่าทางโภชนาการ 

    • โปรตีน  15-18g จากเต้าหู้และไข่
    • แคลเซียม  350mg จากเต้าหู้
    • วิตามินเอ  200mcg จากแครอท
    • แคลอรี่รวม  180-220 ต่อถ้วย

วิธีทำให้อร่อย 

    • เลือกเต้าหู้ไข่เนื้อละเอียด
    • ใส่แครอทและข้าวโพดเพิ่มความหวานธรรมชาติ
    • ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและพริกไทย

ทริคการตุ๋น 

    • ใช้ไฟอ่อน ตุ๋นนานๆ
    • กรองไข่ให้ละเอียด
    • ใช้น้ำร้อนในการตุ๋น
  1. ข้าวต้มไก่ฉีก

คุณค่าทางโภชนาการ 

    • โปรตีน  20-25g จากเนื้อไก่
    • คาร์โบไฮเดรต  35g จากข้าว
    • วิตามิน  B complex จากข้าวและไก่
    • แคลอรี่รวม  300-350 ต่อถ้วย

วิธีทำแบบพรีเมียม 

    • ใช้ข้าวหอมมะลิคุณภาพดี
    • ต้มกระดูกไก่ทำน้ำซุป
    • โรยด้วยขิงซอยและต้นหอม
  1. แกงจืดเต้าหู้ผักกาดขาว

คุณค่าทางโภชนาการ 

    • โปรตีน  12-15g จากเต้าหู้และหมูบด
    • ใยอาหาร  4-5g จากผักกาดขาว
    • วิตามินซี  30mg จากผักกาดขาว
    • แคลอรี่รวม  150-180 ต่อถ้วย

วิธีทำให้น้ำซุปใส 

    • ลวกหมูบดก่อนใส่ในน้ำซุป
    • ต้มน้ำซุปให้เดือดก่อนใส่ผัก
    • ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและพริกไทย

เคล็ดลับการเลือกผัก 

    • ผักกาดขาว  เลือกใบอ่อน ไม่เหลือง
    • เต้าหู้  เลือกชนิดนุ่ม เนื้อละเอียด
  1. ส้มตำไทยใส่ถั่ว

คุณค่าทางโภชนาการ 

    • วิตามินซี  85mg จากมะละกอดิบ
    • โปรตีน  8-10g จากถั่วลิสง
    • ใยอาหาร  6g จากมะละกอและถั่ว
    • แคลอรี่รวม  200-250 ต่อจาน

วิธีทำให้อร่อยแบบเฮลตี้ 

    • ลดน้ำตาล เพิ่มมะนาว
    • ใส่ถั่วลิสงคั่วบดเอง
    • เลือกมะละกอดิบเนื้อกรอบ
  1. ไข่เจียวน้ำมันน้อยใส่ต้นหอม

คุณค่าทางโภชนาการ

    • โปรตีน  12-14g จากไข่ 2 ฟอง
    • วิตามินเอและเค  จากต้นหอม
    • ไขมันดี  5g จากน้ำมันมะกอก
    • แคลอรี่รวม  180-200 ต่อจาน

วิธีทำให้ฟูนุ่ม

    • ตีไข่ให้เข้ากันดีกับนมสด
    • ใช้กระทะไม่ติดคุณภาพดี
    • ควบคุมไฟให้พอเหมาะ

เคล็ดลับประหยัด

    • ปลูกต้นหอมไว้ใช้เอง
    • ใช้ไข่เบอร์ 2 คุณภาพดีราคาประหยัด
  1. ปลาย่างจิ้มแจ่ว

คุณค่าทางโภชนาการ

    • โปรตีน  25-30g จากปลา
    • ไขมันดี  โอเมก้า 3 จากปลา
    • วิตามินบี  จากเนื้อปลา
    • แคลอรี่รวม  250-300 ต่อจาน

วิธีย่างให้หอม

    • หมักปลาด้วยเครื่องเทศไทย
    • ย่างไฟอ่อนๆ ให้สุกทั่ว
    • ทำน้ำจิ้มแจ่วสูตรพิเศษ
  1. แซนด์วิชขนมปังโฮลวีตไส้ไก่สับ

คุณค่าทางโภชนาการ 

    • โปรตีน  18-20g จากไก่สับและขนมปัง
    • ใยอาหาร  6-8g จากขนมปังโฮลวีต
    • วิตามินรวม  จากผักสดหลากชนิด
    • แคลอรี่รวม  280-320 ต่อชิ้น

วิธีทำให้น่ากิน 

    • เลือกขนมปังโฮลวีตคุณภาพดี
    • ลวกไก่สับให้สุกพอดี ไม่แห้ง
    • แต่งด้วยผักสดหลากสี

เคล็ดลับการจัดเก็บ 

    • ห่อแซนด์วิชด้วยพลาสติกแรป
    • แยกเก็บผักสดต่างหาก
    • ทำไส้ไก่เก็บไว้ได้ 2-3 วัน
  1. กล้วยน้ำว้าทานกับโยเกิร์ต

คุณค่าทางโภชนาการ 

    • โปรตีน  5-6g จากโยเกิร์ต
    • โพแทสเซียม  450mg จากกล้วย
    • โพรไบโอติก  จากโยเกิร์ต
    • แคลอรี่รวม  150-180 ต่อถ้วย

วิธีทำให้อร่อย 

    • เลือกกล้วยสุกกำลังดี
    • ใช้โยเกิร์ตรสธรรมชาติ
    • โรยด้วยซีเรียลโฮลเกรนเพิ่มความกรุบ

เคล็ดลับการเลือกกล้วย 

    • เลือกกล้วยสุกจัด หวานธรรมชาติ
    • ซื้อกล้วยเครือ ประหยัดกว่า
    • เก็บในตู้เย็นได้หลายวัน

 

เคล็ดลับทำเมนูลดพุงให้อร่อยและได้ผล

  1. การเลือกวัตถุดิบอย่างชาญฉลาด

การทำอาหารลดพุงให้อร่อยเริ่มต้นจากการเลือกวัตถุดิบที่ดี จากประสบการณ์ในการดูแลสมาชิกในยิม พบว่าวัตถุดิบที่สด สะอาด และอยู่ในฤดูกาลจะให้รสชาติที่ดีกว่า อีกทั้งยังราคาถูกกว่าด้วย

  1. เทคนิคการปรุงอาหารแบบมืออาชีพ

การปรุงอาหารให้อร่อยโดยไม่ต้องพึ่งน้ำมันหรือเครื่องปรุงมากเกินไป มีเคล็ดลับดังนี้ 

    • ใช้สมุนไพรไทยเพิ่มกลิ่นหอม
    • ปรุงอาหารด้วยอุณหภูมิที่เหมาะสม
    • ใช้เครื่องเทศช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ
  1. การจัดเตรียมอาหารล่วงหน้า

การเตรียมอาหารล่วงหน้าช่วยประหยัดเวลาและควบคุมปริมารอาหารได้ดีกว่า วิธีการที่แนะนำ 

    • แบ่งอาหารเป็นมื้อๆ ใส่กล่อง
    • เตรียมวัตถุดิบสำหรับ 3-4 วัน
    • จดบันทึกปริมาณแคลอรี่
  1. การปรับรสชาติให้เข้ากับตัวเอง

แต่ละคนมีความชอบไม่เหมือนกัน การปรับรสชาติให้ถูกปากจะช่วยให้ทานอาหารเพื่อสุขภาพได้อย่างมีความสุขมากขึ้น 

    • เริ่มจากรสชาติอ่อนๆ ก่อน
    • ค่อยๆ ลดปริมาณน้ำตาลและเกลือ
    • เพิ่มรสชาติด้วยสมุนไพรธรรมชาติ

 

สรุป  อาหารลดพุงที่ทั้งอร่อย ประหยัด และได้ผลจริง

การเริ่มต้นที่ยั่งยืน การทำอาหารลดพุงไม่ใช่เรื่องยาก เริ่มต้นจากสิ่งที่ใกล้ตัว วัตถุดิบที่หาได้ง่ายในตลาด และเมนูที่คุ้นเคย การปรับเปลี่ยนทีละน้อยจะช่วยให้เราทำได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน

ข้อดีของการทำอาหารเอง

  • ประหยัดค่าใช้จ่าย เมื่อเทียบกับการซื้ออาหารคลีนสำเร็จรูป
  • ควบคุมวัตถุดิบและปริมาณได้
  • ปรับรสชาติให้ถูกปากได้
  • มั่นใจในความสะอาดและคุณภาพ

คำแนะนำสำหรับผู้เริ่มต้น เริ่มจากเมนูที่ทำง่ายๆ 2-3 เมนูก่อน เมื่อชำนาญแล้วค่อยๆ เพิ่มเมนูใหม่ ที่สำคัญคือการวางแผนและเตรียมวัตถุดิบให้พร้อม

สิ่งที่ควรทำควบคู่กับการทานอาหารเพื่อสุขภาพ

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว
  • เคลื่อนไหวร่างกายสม่ำเสมอ
  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • ทานอาหารตรงเวลา

ปิดท้ายด้วยกำลังใจ การเริ่มต้นทำอาหารเพื่อสุขภาพอาจดูเป็นเรื่องยาก แต่เมื่อลงมือทำจริงๆ คุณจะพบว่ามันไม่ยากอย่างที่คิด เริ่มจากวันนี้ ทำทีละนิด ค่อยๆ ปรับเปลี่ยน แล้วคุณจะพบว่าการกินเพื่อสุขภาพนั้นทำได้จริง และยั่งยืน