8 ท่าเล่นกล้ามแขนแบบไม่ใช้อุปกรณ์ ทำที่บ้านก็เห็นผล!

หลายคนอาจคิดว่าการสร้างกล้ามแขนจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์มากมาย แต่จริงๆ แล้วเราสามารถสร้างกล้ามแขนให้แข็งแรงได้ด้วยการใช้น้ำหนักตัวเองเป็นแรงต้าน มาดู 10 ท่าที่สามารถทำได้ที่บ้าน

ท่าพื้นฐานสำหรับการเริ่มต้น

1.Diamond Push-ups

ท่านี้เน้นกล้ามเนื้อไทรเซ็ปส์เป็นหลัก วิธีทำคือจัดมือเป็นรูปเพชร วางใต้หน้าอก ลดตัวลงช้าๆ และดันขึ้น ควรทำ 3 เซต เซตละ 8-12 ครั้ง

2.Plank Ups and Downs

เริ่มจากท่าแพลงค์บนข้อศอก สลับยกตัวขึ้นมาเป็นท่าวิดพื้นทีละข้าง ทำต่อเนื่อง 30-45 วินาที พัก 1 นาที ทำ 3 เซต

3.Pike Push-ups (วิดพื้นท่าคางหมู)

วิธีทำ  เริ่มจากท่ายืนก้มตัว มือและเท้าแตะพื้น ยกสะโพกขึ้นให้ร่างกายเป็นรูปตัว A จากนั้นงอข้อศอกลดศีรษะลงมาใกล้พื้น แล้วดันกลับขึ้น ทำจังหวะลง 3 วินาที ขึ้น 2 วินาที

เคล็ดลับสำคัญ  ท่านี้เป็นการเตรียมร่างกายสำหรับท่า Handstand Push-ups ควรเริ่มจากการทำระยะสั้นๆ ก่อน เมื่อแข็งแรงขึ้นค่อยเพิ่มระยะการเคลื่อนไหว ยิ่งยกสะโพกสูงเท่าไหร่ จะยิ่งเน้นกล้ามเนื้อไหล่และไทรเซ็ปส์มากขึ้น

จำนวนเซตที่แนะนำ 

  • มือใหม่  2-3 เซต เซตละ 5-8 ครั้ง
  • ระดับกลาง  3-4 เซต เซตละ 8-12 ครั้ง
  • ระดับสูง  4 เซต เซตละ 12-15 ครั้ง

4.Pseudo Push-ups (วิดพื้นมือหัน)

วิธีทำ  นอนคว่ำ วางมือข้างลำตัว หันนิ้วมือเข้าหาเท้า ขยับมือให้อยู่ระดับเอว ดันตัวขึ้นโดยพยายามรักษาข้อศอกให้ชิดลำตัว ลดตัวลงจนหน้าอกแตะพื้น แล้วดันขึ้น

เคล็ดลับพิเศษ  ท่านี้จะช่วยเน้นกล้ามเนื้อไบเซ็ปส์ได้ดีมาก แม้ไม่มีอุปกรณ์ ข้อสำคัญคือต้องรักษาข้อศอกให้ชิดลำตัวตลอดการเคลื่อนไหว และบิดมือให้นิ้วชี้ไปทางเท้าจริงๆ

ระดับความก้าวหน้า 

  1. เริ่มจากท่าคุกเข่า
  2. ยกเข่าขึ้น ทำท่าปกติ
  3. ยกเท้าขึ้นสูงเพื่อเพิ่มความท้าทาย
  4. Bodyweight Triceps Extensions (ดิปบนพื้น) วิธีทำ  นั่งบนพื้น เหยียดขาไปด้านหน้า วางมือทั้งสองข้างข้างสะโพก นิ้วชี้ไปทางเท้า ยกสะโพกขึ้นจากพื้น เลื่อนสะโพกไปด้านหน้าเล็กน้อย จากนั้นงอข้อศอกลดตัวลงช้าๆ แล้วดันกลับขึ้น

เทคนิคพิเศษ  การวางตำแหน่งมือมีผลมากต่อความรู้สึกที่กล้ามเนื้อ ถ้าต้องการเน้นไทรเซ็ปส์มากขึ้น ให้วางมือชิดลำตัวมากขึ้น และพยายามกดข้อศอกเข้าหากัน

5.Wall Push-ups with Rotation (วิดพื้นกำแพงพร้อมบิดตัว)

วิธีทำ  ยืนห่างกำแพงประมาณหนึ่งช่วงแขน วางมือบนกำแพง ทำท่าวิดพื้น เมื่อดันตัวขึ้น ให้ยกมือข้างหนึ่งขึ้นพร้อมบิดลำตัว มองตามมือที่ยก สลับซ้าย-ขวา

การปรับระดับความยาก 

  • ระดับเริ่มต้น  ยืนใกล้กำแพงมากขึ้น
  • ระดับกลาง  ถอยห่างกำแพงมากขึ้น
  • ระดับสูง  เพิ่มจังหวะการบิดตัวให้ช้าลง ค้างไว้นานขึ้น

วิธีการหายใจ 

  • หายใจเข้าตอนลดตัวลง
  • หายใจออกตอนดันตัวขึ้นและบิดตัว
  • หายใจให้สอดคล้องกับจังหวะการเคลื่อนไหว
  • Hindu Push-ups (วิดพื้นแบบฮินดู) วิธีทำ  เริ่มในท่าคล้ายตัว A โดยยกสะโพกขึ้นสูง จากนั้นลดสะโพกลงพร้อมกับนำหน้าอกผ่านระหว่างมือ เหมือนงูเลื้อย แล้วดันตัวขึ้นโค้งหลังแอ่นตัวเป็นท่าคอบร้า กลับสู่ท่าเริ่มต้น ทำต่อเนื่องเป็นจังหวะ

ข้อดีของท่านี้  เป็นท่าที่ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อแขนรอบด้าน ทั้งไบเซ็ปส์ ไทรเซ็ปส์ และไหล่ พร้อมเพิ่มความยืดหยุ่นให้ร่างกาย

6.Plank to Down Dog Taps (แพลงค์สลับหมาหมอบ)

วิธีทำ  เริ่มในท่าแพลงค์ จากนั้นยกสะโพกขึ้นเป็นท่าหมาหมอบ ใช้มือข้างหนึ่งแตะไหล่อีกข้าง สลับซ้าย-ขวา กลับสู่ท่าแพลงค์ ทำซ้ำต่อเนื่อง

การควบคุมการหายใจ 

  • หายใจเข้าในท่าแพลงค์
  • หายใจออกตอนยกสะโพกขึ้น
  • หายใจเข้าตอนแตะไหล่
  • หายใจออกตอนกลับสู่ท่าเริ่มต้น

7.Decline Push-ups with Feet Elevated (วิดพื้นยกเท้าสูง)
วิธีทำ  วางเท้าบนที่สูง เช่น เก้าอี้หรือขอบเตียง มือวางบนพื้น กว้างกว่าไหล่เล็กน้อย ลดตัวลงช้าๆ ให้หน้าอกใกล้พื้น แล้วดันขึ้น รักษาแนวลำตัวให้ตรงตลอดการเคลื่อนไหว

เทคนิคการเล่น 

  • ยิ่งยกเท้าสูงมากเท่าไร จะยิ่งเน้นกล้ามเนื้อไหล่และไทรเซ็ปส์มากขึ้น
  • ควรเริ่มจากความสูงระดับเข่าก่อน แล้วค่อยๆ เพิ่มความสูง
  • รักษาข้อศอกให้ชิดลำตัว ไม่กางออกด้านข้างมากเกินไป

8.Walking Plank (แพลงค์เดิน)

วิธีทำ  เริ่มในท่าแพลงค์บนข้อศอก สลับยกแขนขึ้นทีละข้างเป็นท่าวิดพื้น แล้วลดกลับลงมาที่ข้อศอก เคลื่อนที่ไปด้านข้างเหมือนการเดิน ทำสลับซ้าย-ขวาต่อเนื่อง

รูปแบบการฝึก 

  • ทำต่อเนื่อง 30 วินาที พัก 30 วินาที
  • ทำ 3-4 เซต
  • เพิ่มความท้าทายด้วยการเคลื่อนที่เร็วขึ้น หรือเพิ่มเวลา

เคล็ดลับพิเศษ  ท่านี้นอกจากจะช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อแขนแล้ว ยังช่วยพัฒนาความแข็งแรงของแกนกลางลำตัว และความอดทนโดยรวมด้วย

 

สรุป  การฝึกกล้ามแขนที่บ้านแบบไม่ใช้อุปกรณ์

3 หลักสำคัญในการเล่นแขนที่บ้าน

  1. ความสม่ำเสมอ ฝึก 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ สลับวันพัก เน้นท่าพื้นฐานให้ชำนาญก่อนเพิ่มท่ายาก
  2. การจัดโปรแกรม
    • เริ่มจากท่าง่าย เช่น Wall Push-ups
    • ค่อยๆ เพิ่มเป็นท่าที่ยากขึ้น เช่น Diamond Push-ups
    • จบด้วยท่าที่ท้าทาย เช่น Pike Push-ups
  3. การพัฒนา เมื่อทำท่าใดได้ครบ 15 ครั้งต่อเซตอย่างง่ายดาย ให้เปลี่ยนไปทำท่าที่ยากขึ้น หรือเพิ่มจำนวนเซต

เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ

  • ทำท่าให้ถูกต้องก่อนเพิ่มจำนวนครั้ง
  • พักให้เพียงพอระหว่างวัน
  • ทานอาหารที่มีโปรตีนเพียงพอ
  • นอนหลับให้เพียงพอ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน

หากทำตามแนวทางนี้อย่างสม่ำเสมอ จะเห็นผลการพัฒนาของกล้ามเนื้อแขนภายใน 4-6 สัปดาห์