1. ท่านี้คืออะไร?
สวัสดีค่ะทุกคน! โค้ชปุนิ่ม (นางสาวมนัสนันท์ อรรณพวรรณ) เองค่ะ วันนี้โค้ชภูมิใจที่จะแนะนำให้รู้จักกับหนึ่งในท่าออกกำลังกายที่เป็นหัวใจสำคัญของการปั้นกล้ามเนื้อขาให้เรียวสวยและแข็งแรง “ท่า Leg Press” ท่าที่โค้ชปุนิ่มเลือกใช้ทั้งตอนเตรียมตัวขึ้นเวทีประกวดฟิตเนส และยังนำไปเสริมพลังขาเวลาลงแข่งวิ่งเทรลและฮาล์ฟมาราธอนค่ะ
ถ้าให้อธิบายง่าย ๆ Leg Press คือท่าออกกำลังกายที่เน้นฝึกกล้ามเนื้อขา โดยใช้เครื่องออกกำลังกายที่เราเรียกกันว่า Leg Press Machine ตัวเครื่องจะมีลักษณะเป็นแท่นที่เราใช้นอนหรือเอนตัวลงไป แล้วใช้ขาทั้งสองข้างดันแผ่นเหล็กหรือแท่นน้ำหนักออกไป ท่านี้ถือว่าเป็นท่าที่ปลอดภัยมาก เพราะมีตัวเครื่องช่วยควบคุมท่าทางการเคลื่อนไหว ช่วยลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บได้ดีค่ะ
จากประสบการณ์ตรงที่โค้ชผ่านเวทีประกวดระดับประเทศมาแล้วมากมาย ทั้งชนะเลิศอันดับ 1 รายการใหญ่ระดับประเทศอย่าง Mr. Thailand 2025 ที่จัดขึ้นที่ Royal Cliff Grand Hotel พัทยา และ Thailand Open Masters Games 2025 ที่ RBSC Polo Club กรุงเทพฯ ต้องขอบอกเลยว่า ท่านี้มีส่วนสำคัญมากในการสร้างกล้ามเนื้อขาและความแข็งแรงของช่วงล่างค่ะ
สิ่งที่โค้ชปุนิ่มชื่นชอบที่สุดของท่า Leg Press คือสามารถปรับเปลี่ยนน้ำหนักให้เหมาะสมกับทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มเล่นฟิตเนส หรือระดับมืออาชีพที่ต้องการสร้างกล้ามเนื้อขาอย่างจริงจัง ท่านี้ช่วยตอบโจทย์ได้ดีเสมอค่ะ
ในบทความนี้โค้ชจะค่อย ๆ อธิบายทีละขั้นตอน เพื่อให้ทุกคนสามารถทำท่านี้ได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และเห็นผลชัดเจนที่สุด ไปติดตามกันต่อได้เลยนะคะ!
2. 5 วิธีการทำท่า Leg Press ที่ถูกต้อง
โค้ชปุนิ่มสอนจากประสบการณ์ตรงบนเวทีประกวดและสนามซ้อมจริง ไม่ใช่แค่ตำรา
การฝึกท่า Leg Press ให้ถูกวิธีตั้งแต่เริ่ม จะช่วยให้คุณได้กล้ามเนื้อขาอย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่เจ็บเข่า ไม่เจ็บหลัง และไม่พลาดเป้าหมายที่ฝึกค่ะ มาดูกันทีละขั้นตอน โค้ชจะบอกครบทุกจุดที่ต้องใส่ใจแบบคนเทรนลูกศิษย์มาเอง
✅ ขั้นตอนที่ 1: ปรับเบาะและแผ่นวางเท้าให้เหมาะกับสรีระของคุณ
- ให้นั่งบนเบาะในตำแหน่งที่หลังแนบกับพนักพิงพอดี ไม่เว้าหรือโค้ง
- หัวเข่าควรอยู่ระดับเดียวกับปลายเท้าเมื่ออยู่ในท่าตั้งต้น
- ขนาดมุมเข่าควรเริ่มจาก 90–100 องศา เพื่อให้แรงส่งพอดี และลดการกดทับข้อเข่า
🧠 Insight จากโค้ช: ลูกศิษย์โค้ชบางคนที่เคยเจ็บเข่าเพราะนั่งไกลเกินไปหรือใกล้เกินไป พอปรับเบาะให้ถูก เข่าหายเจ็บทันทีและฝึกต่อได้ยาว ๆ เลยค่ะ
✅ ขั้นตอนที่ 2: วางเท้าให้ตรงกับเป้าหมายที่คุณต้องการฝึก
- วางเท้ากลาง ๆ บนแผ่น (shoulder width) = เน้นต้นขาทั้งหมด
- วางเท้าสูงขึ้น = เน้นกล้ามเนื้อบั้นท้ายและแฮมสตริง
- วางเท้าต่ำลง = เน้นกล้ามเนื้อหน้าขา (quadriceps) มากขึ้น
💡 ทริคเพิ่มเติม: ถ้าเป้าหมายของคุณคือ “บั้นท้ายกลม” ให้ลองปรับเท้าขึ้นสูงและกางออกเล็กน้อย
✅ ขั้นตอนที่ 3: เกร็งหน้าท้องและหลังแนบเบาะตลอดเวลา
- อย่ายกสะโพกขึ้นจากเบาะขณะดันแผ่นน้ำหนัก เพราะจะทำให้หลังส่วนล่างรับภาระมากเกินไป
- ควรหายใจเข้าในจังหวะงอเข่า และหายใจออกในจังหวะดันออก
🎯 สิ่งที่ต้องเลี่ยง: ห้ามกลั้นหายใจ! เพราะอาจทำให้ความดันขึ้น และเสี่ยงหน้ามืดในท่าที่ใช้แรงมากแบบนี้
✅ ขั้นตอนที่ 4: ดันแผ่นออกด้วย “ส้นเท้า” ไม่ใช่ปลายเท้า
- การดันด้วยส้นเท้าจะช่วยเปิดการใช้กล้ามเนื้อขาได้เต็มพิกัด
- ถ้าดันด้วยปลายเท้า จะไปลงแรงที่น่องและเข่าเกินความจำเป็น
💬 โค้ชชอบใช้คำว่า “ดันแบบสะโพกส่งแรงผ่านส้นเท้า” เพราะนั่นคือจุดที่กล้ามขาจะทำงานดีที่สุดค่ะ
✅ ขั้นตอนที่ 5: ห้ามเหยียดขา “สุด” ในจังหวะล็อก
- ให้หยุดก่อนเข่าตึงเล็กน้อย เพื่อให้แรงต้านยังอยู่ที่กล้ามเนื้อ
- การเหยียดขาสุดแล้ว “ล็อก” จะเพิ่มแรงกระแทกที่เข่า และลดเวลาที่กล้ามเนื้อทำงาน
📌 ถ้าเปรียบให้เห็นภาพ: คุณควรดันออกเหมือน “ผลักใครไว้ไม่ให้เข้ามา” ไม่ใช่ “กระแทกประตูสุดแรง”
🧠 สรุปในมุมโค้ช
ท่า Leg Press ที่ดีไม่ใช่แค่ท่าที่ดันน้ำหนักเยอะที่สุด
แต่คือท่าที่ “ขาได้ทำงานเต็มที่ทุกองศา” และ “ข้อต่อไม่เสีย” โค้ชเคยเห็นคนขาใหญ่ขึ้นเพราะเล่นถูก และบางคนเข่าเสียเพราะรีบเล่นเร็วเกินไป ขอแค่คุณใจเย็น ทำตาม 5 ขั้นตอนนี้ให้แม่น แล้วขาสวย ๆ ก็ไม่ไกลเกินเอื้อมค่ะ
3. 2 เคล็ดลับจากประสบการณ์ตรง
จากเวทีระดับประเทศถึงห้องซ้อมฟิตเนส โค้ชปุนิ่มใช้วิธีนี้จริงก่อนคว้าแชมป์
💡 เคล็ดลับที่ 1: ใช้เทคนิค “Slow Down – Pause – Push”
นี่คือสูตรลับที่โค้ชปุนิ่มใช้กับตัวเองเสมอเวลาเล่น Leg Press เพื่อ เน้นความรู้สึกในกล้ามเนื้อ (Mind-Muscle Connection)
วิธีการ:
- Slow Down: ลดจังหวะตอนงอเข่าให้ช้าลงอย่างมีสติ (2–3 วินาที)
- Pause: หยุดสั้น ๆ (0.5–1 วินาที) เมื่อถึงจุดล่างสุดของท่า
- Push: ดันกลับขึ้นด้วยแรงจากสะโพกผ่านส้นเท้าอย่างมั่นคง
🎯 โค้ชปุนิ่มใช้เทคนิคนี้ก่อนขึ้นเวทีรายการใหญ่ เช่น Payap Classic 2023 และ Mr. Thailand 2025 เพราะมันช่วย “เร่งฟอร์ม” ให้ขาดูคมชัด โดยไม่ต้องเพิ่มน้ำหนักเยอะจนเสี่ยงเจ็บ
💬 Insight เพิ่ม: ลูกเทรนที่โค้ชฝึกส่วนใหญ่ เวลาทำเร็วเกินไปจะไม่รู้สึกถึงกล้ามขา แต่พอให้ลองช้าลงแบบนี้ แค่ 8-10 ครั้ง ก็ถึงกับร้องว่า “หนักกว่าใส่น้ำหนักเพิ่มอีกค่ะโค้ช!”
💡 เคล็ดลับที่ 2: แยกวัน “Leg Press Focus” ออกจากวัน Squat
หลายคนชอบเล่น Leg Press ต่อจาก Squat ในวันเดียวกัน แต่จากประสบการณ์โค้ช การทำแบบนั้นอาจทำให้กล้ามเนื้อหมดแรงก่อนจะได้ฝึกแบบมีคุณภาพจริง ๆ
สิ่งที่โค้ชทำ:
- แบ่งวันฝึกแบบชัดเจน เช่น
- วันหนึ่งเล่น Squat เป็น Compound Move
- อีกวันหนึ่งเล่น Leg Press แบบเน้นมุมเฉพาะจุด เช่น “หน้าขา” หรือ “บั้นท้าย”
🧠 โค้ชปุนิ่มค้นพบว่าการแยกวันแบบนี้ทำให้ Recovery ดีขึ้น และช่วยให้แต่ละมัดกล้ามเนื้อฟื้นตัวเร็ว เห็นผลชัดขึ้นใน 2–3 สัปดาห์
📌 ข้อคิดจากสนามแข่ง: ตอนเตรียมขึ้นเวที โค้ชต้องควบคุมความชัดของกล้ามเนื้อ และปริมาณบาดเจ็บให้น้อยที่สุด เพราะฉะนั้นการแยกวันแบบนี้ทำให้ “กล้ามไม่พัง” แต่ “พัฒนาได้ต่อเนื่อง”
🧠 สรุปเชิงโค้ช
ถ้าคุณเล่น Leg Press ได้ถูกวิธี แล้วเสริมด้วย เทคนิคควบคุมจังหวะ + การวางแผนฝึกแยกกลุ่มกล้ามเนื้อ ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเริ่ม หรือเล่นมานานแล้ว ก็จะเห็นพัฒนาการได้ในไม่เกิน 1 เดือนแน่นอนค่ะ
4. 5 ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย (ที่เคยเห็นจริง ๆ) + วิธีแก้
โค้ชปุนิ่มเคยเจอมาหมด ทั้งตอนซ้อมเองและตอนเทรนลูกศิษย์ในยิม
❌ 1. “เหยียดเข่าจนสุดล็อก” เสี่ยงบาดเจ็บข้อเข่า
เกิดกับ: มือใหม่ที่อยากโชว์แรงดันเยอะ
ปัญหา: เข่ารับแรงกระแทกเต็ม ๆ จนเสี่ยงเจ็บเรื้อรัง
วิธีแก้:
- หยุดขาก่อนถึงจุดตึงสุดของข้อเข่าเล็กน้อย
- โฟกัสให้กล้ามขาเป็นตัวรับแรง ไม่ใช่ “ข้อต่อ”
🧠 โค้ชเจอลูกเทรนหลายคนเล่นแบบนี้เพราะคิดว่าเหยียดสุดจะกล้ามขึ้นเร็ว แต่จริง ๆ กล้ามไม่ได้ทำงานเต็มระยะ แถมเสี่ยงเจ็บมากกว่า
❌ 2. “นั่งไกลหรือใกล้เบาะเกินไป” ทำให้หลังลอยหรือสะโพกยก
เกิดกับ: คนที่ไม่ปรับเบาะก่อนเริ่ม
ปัญหา: แรงกดทับจะไปลงที่กระดูกสันหลังส่วนล่าง
วิธีแก้:
- ปรับเบาะให้พอดีกับมุมเข่าและหลังแนบเบาะตลอด
- ขณะงอเข่า เข่าควรอยู่ในแนวเดียวกับฝ่าเท้า ไม่หุบหรือกางออก
💬 โค้ชเคยเจอลูกเทรนที่เล่นผิดแล้วปวดหลังเรื้อรัง ต้องหยุดฝึกไปเกือบเดือน พอได้ปรับเบาะถูกตำแหน่ง ทุกอย่างดีขึ้นทันที
❌ 3. “วางเท้าต่ำเกินไป” แล้วบ่นว่าเจ็บเข่า
เกิดกับ: คนที่อยากเน้นหน้าขาแบบเร็ว ๆ
ปัญหา: เข่าถูกกดหนักมากกว่ากล้ามเนื้อขาทำงาน
วิธีแก้:
- ปรับตำแหน่งฝ่าเท้าให้สูงขึ้นบนแผ่นวางเท้า
- ใช้ส้นเท้าเป็นจุดส่งแรง ไม่ใช่ปลายเท้า
🎯 โค้ชแนะนำเสมอว่า “ท่าออกกำลังกายที่ดีไม่ต้องฝืนธรรมชาติของข้อต่อ” ให้ร่างกายอยู่ในแนวที่ปลอดภัย แล้วค่อยเพิ่มความเข้มข้นค่ะ
❌ 4. “เร่งทำเร็วเกินไป ไม่ควบคุมจังหวะ”
เกิดกับ: คนที่อยากฝึกให้เยอะ แต่ไม่เน้นคุณภาพ
ปัญหา: กล้ามไม่ได้ทำงานลึก แถมเสี่ยงเจ็บกล้ามเนื้อแฮมสตริงหรือเข่า
วิธีแก้:
- ใช้สูตรของโค้ช “Slow – Pause – Push” จากหัวข้อก่อน
- โฟกัสที่ฟอร์มและความรู้สึกกล้ามเนื้อ มากกว่าจำนวนครั้ง
💡 ข้อนี้โค้ชเน้นย้ำกับทุกคน: ฝึก 8 ครั้งแบบมีคุณภาพ ดีกว่า 15 ครั้งที่กล้ามไม่รู้สึกอะไรเลย
❌ 5. “ไม่วอร์มขา-เข่าก่อนเริ่มเล่น”
เกิดกับ: ทั้งผู้เริ่มต้นและคนที่เล่นเป็นประจำ
ปัญหา: ข้อต่อยังแข็งแรงไม่พอรับน้ำหนัก อาจเจ็บทันทีที่ฝึก
วิธีแก้:
- วอร์มด้วย Leg Extension, Air Squat หรือใช้แค่แผ่นเปล่าก่อน
- ขยับเข่าเป็นวงช้า ๆ ประมาณ 5 นาที
📌 โค้ชเองก็ไม่เคยข้ามการวอร์มเลย โดยเฉพาะวันขา เพราะถ้ากล้ามเนื้อยังไม่ตื่นตัวก็จะไม่พร้อมรับแรง และประสิทธิภาพการฝึกจะต่ำลงทันทีค่ะ
🧠 สรุปเชิงโค้ช:
ข้อผิดพลาดเหล่านี้ไม่ได้แปลว่าคุณฝึกผิดจนหมดสิทธิ์ฟื้นฟอร์ม
แต่แปลว่า “คุณแค่ยังไม่ได้รับคำแนะนำที่ถูกต้อง” เท่านั้นเอง
และวันนี้…โค้ชให้ครบแล้วค่ะ
5. 3 กล้ามเนื้อที่ได้จากท่านี้ และวิธีใช้ท่านี้ “สร้างทรงสวย” แบบนักฟิตเนสหญิง
ถ้าเข้าใจมุมฝึกของแต่ละตำแหน่งเท้า กล้ามขาคุณจะสวยขึ้นได้จริง ไม่ใช่แค่ใหญ่ขึ้น
🧬 กล้ามเนื้อหลักที่ทำงานในท่า Leg Press
กล้ามเนื้อหลัก | ตำแหน่งในร่างกาย | ผลลัพธ์เมื่อฝึกถูกต้อง |
---|---|---|
Quadriceps (ต้นขาด้านหน้า) | บริเวณหน้าขา | ขาดูแน่น กระชับ ไม่หย่อน |
Gluteus Maximus (บั้นท้าย) | ก้นช่วงบนและล่าง | ยกกระชับ ก้นได้รูป ไม่แบน |
Hamstrings (ต้นขาด้านหลัง) | หลังต้นขาถึงหลังเข่า | ทรงขาดูเรียวยาว มีมิติ |
🧠 จากประสบการณ์จริง โค้ชปุนิ่มใช้ 3 มัดนี้ในการ “ปั้นทรงขา” โดยไม่เน้นกล้ามใหญ่ แต่เน้น “ความคมชัด และสมส่วน” ตามแบบฉบับนักเพาะกายหญิงระดับเวที Elite Physique Championships (USA) และ Mr. Thailand
🎯 เทคนิค “สร้างทรง” ด้วยตำแหน่งเท้า
ถ้าคุณอยากให้ขาไม่ได้แค่แข็งแรง แต่ “ทรงดีเหมือนคนที่ประกวดฟิตเนส” ให้ลองใช้แนวทางนี้:
1. เท้าวางกลาง (กว้างเท่าไหล่)
โฟกัส: Quadriceps + Glutes
ผลลัพธ์: ขาแน่น ก้นกระชับ เหมาะกับทรงขาแบบ Sporty
2. เท้าวางสูงขึ้นบนแผ่น
โฟกัส: Glutes + Hamstrings
ผลลัพธ์: บั้นท้ายดูเต็ม สะโพกไม่แฟบ ทรงขาเรียวยาว
3. เท้าวางแคบลง
โฟกัส: Quadriceps ด้านนอก
ผลลัพธ์: ขาด้านนอกกระชับ สร้างลุค “เรียวตั้งแต่ต้นขาถึงเข่า”
💡 Insight จากสนามจริง:
ตอนโค้ชปุนิ่มเตรียมขึ้นเวที Payap Classic 2023 มีจุดที่ต้องปรับคือ “บั้นท้ายดูไม่เด่นพอ” โค้ชเลยเน้น Leg Press เท้าสูง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน (2 ครั้ง/สัปดาห์) สลับกับ Romanian Deadlift แบบเบา ๆ
ผลลัพธ์: พอบั้นท้ายชัดขึ้น คะแนนรวมก็พุ่ง และคว้าแชมป์มาได้จริง
📌 เคล็ดลับเสริม: อย่าลืม Stretch กล้ามเนื้อหลังฝึก
หลายคนฝึกขาดี แต่ไม่ได้ยืด ทำให้กล้ามดูสั้น หดตัวเร็ว ขาดความเรียวยาว
ท่ายืดที่โค้ชใช้บ่อย:
- Kneeling Quad Stretch (ยืดต้นขาหน้า)
- Lying Glute Stretch (ยืดบั้นท้าย)
- Standing Hamstring Stretch (ยืดต้นขาหลัง)
🧠 สรุปเชิงโค้ช:
Leg Press ไม่ใช่แค่ท่าเล่นแรง แต่มันคือท่าปั้นรูปขา
ถ้าคุณฝึกด้วยความเข้าใจกล้ามเนื้อ และรู้ว่าต้องการ “ทรงแบบไหน” ร่างกายจะตอบสนองได้รวดเร็วกว่าการฝึกแบบเดิม ๆ มากค่ะ
6. ผลลัพธ์ที่เห็นได้จริงจากการฝึก Leg Press อย่างสม่ำเสมอ
กล้ามขาสวยขึ้น ฟอร์มแน่นขึ้น และ Performance การใช้ชีวิตดีขึ้นชัดเจน
การฝึก Leg Press อย่างมีวินัยเพียงสัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ “จับต้องได้” ภายใน 3–4 สัปดาห์
โค้ชปุนิ่มเจอมาหลายเคสที่ลูกศิษย์ไม่ได้อยาก “เล่นเวที” แต่แค่อยากเดินขึ้นลงบันไดคล่องขึ้น หรือใส่กางเกงยีนส์แล้วมั่นใจมากขึ้น ซึ่งก็ทำได้สำเร็จจากการฝึกท่านี้นี่แหละค่ะ
🧠 สาระน่ารู้จากงานวิจัย:
ในปี 2022 มีงานวิจัยหนึ่งที่ศึกษากลุ่มตัวอย่าง ผู้หญิงอายุ 25–50 ปี จำนวน 1,000 คน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม:
- กลุ่มแรกฝึก Leg Press แบบ Progressive Overload สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
- กลุ่มที่สองทำแค่วอร์มอัพหรือเดินเร็ว
ผลลัพธ์ที่ได้ใน 8 สัปดาห์:
- กลุ่มที่ฝึก Leg Press เพิ่มกล้ามเนื้อขาเฉลี่ย 9.2%
- ความสามารถในการยืน-ลุก-เดินเร็วขึ้นกว่าเดิม 15–20%
- ความมั่นใจในรูปร่างโดยรวมเพิ่มขึ้นถึง 73%
👉 งานวิจัยนี้ใช้เครื่อง InBody ตรวจการเปลี่ยนแปลงมวลกล้ามเนื้อ และใช้แบบประเมินทางจิตวิทยาในการเก็บข้อมูลความพึงพอใจ
💡 Insight จากเวที:
โค้ชปุนิ่มเตรียมแข่ง Thailand Open Masters Games 2025 โดยใช้ Leg Press เป็น “ท่าเปิดโปรแกรมขา” สัปดาห์ละ 2 ครั้ง
เน้นเทคนิค Slow & Pause + Drop set ในช่วงท้าย
ผล:
- ขาดูคมขึ้นในเวลาเพียง 3 สัปดาห์
- น้ำหนักลดลง 1.2 กิโล แต่กล้ามขา “ดูใหญ่แบบสมส่วนขึ้น” เพราะ Lean Muscle เพิ่ม
7. 3 เครื่องที่ใช้ฝึกท่านี้ได้ (และเครื่องที่ใช้แทนได้)
ถ้ามีเครื่องก็ใช้ให้เต็มที่ แต่ถ้าไม่มี…โค้ชมีทางออกเสมอ
✅ เครื่องหลัก:
- Leg Press Machine แบบแนวเอียง (45 องศา)
- ใช้ตามฟิตเนสมาตรฐาน
- ควบคุมฟอร์มง่าย เหมาะกับทุกระดับ
- Horizontal Leg Press (แบบนั่งตรง)
- เหมาะกับผู้สูงอายุหรือผู้ฝึกฟื้นฟู
- ลดแรงกดที่หลัง
- Leg Sled Machine
- คล้าย Leg Press แต่ให้ความรู้สึก “ผลัก” มากกว่า
- เหมาะกับคนต้องการโหลดน้ำหนักเยอะ ๆ
🔁 เครื่องที่ใช้แทนได้:
- Smith Machine Squat → เลียนแบบแรงกดแนวดิ่ง
- Barbell Hip Thrust + Goblet Squat → เสริมบั้นท้าย + หน้าขา
- Resistance Band Leg Press (นอนราบ) → สำหรับฝึกที่บ้าน
💡 โค้ชเคยเทรนลูกศิษย์วัยทำงานที่ไม่มีเครื่อง Leg Press เลยที่บ้าน ใช้แค่ยางยืด + เสื่อโยคะ ก็ดูทรงขาขึ้นได้ภายใน 5 สัปดาห์ค่ะ
8. ท่านี้เหมาะกับใคร?
ถ้าคุณมี “ขา” ท่านี้เหมาะกับคุณแน่นอนค่ะ
- มือใหม่: ปลอดภัย ควบคุมง่ายกว่าท่า Squat
- คนที่มีอาการปวดหลัง: มีพนักพิง ไม่กดแนวกระดูกสันหลัง
- ผู้หญิงที่อยาก “ยกบั้นท้าย” และกระชับต้นขา
- คนที่ต้องการแรงระเบิดขา เช่น นักวิ่ง นักกีฬา
- ผู้ที่ฟื้นฟูหลังผ่าตัด หรือมีปัญหาเข่า (โดยเทรนเนอร์ควบคุม)
9. ฝึกท่านี้ร่วมกับอะไร เพื่อเห็นผลเร็วที่สุด
สูตรฝึกที่โค้ชใช้เอง และแนะนำลูกเทรนสายสุขภาพทุกคน
🔄 โปรแกรมแนะนำ: (ใช้ได้ทั้งชาย-หญิง)
วันฝึก | โปรแกรม |
---|---|
วันจันทร์ | Leg Press 4 เซต + Glute Bridge 3 เซต + Standing Calf Raise |
วันพุธ | Squat (Barbell หรือ Bodyweight) + Dumbbell Step-Up |
วันศุกร์ | Leg Press + Romanian Deadlift + Seated Hamstring Curl |
✅ ฝึก 3 วันต่อสัปดาห์ / วันละประมาณ 45–60 นาที
✅ สลับน้ำหนัก & เทคนิคทุกสัปดาห์ (เพิ่ม TUT หรือทำ Drop Set)
✅ เน้นยืดกล้ามเนื้อทุกครั้งหลังเล่น
🎯 ถ้าเป้าหมายคุณคือ “ขาแน่นแต่ไม่ล่ำ” ให้เน้น Reps 12–15 แบบควบคุม ไม่ใช่ 6–8 แบบระเบิดแรง
📌 สรุปส่งท้ายจากโค้ชปุนิ่ม
ท่า Leg Press ไม่ใช่ท่าเฉพาะสำหรับนักเพาะกาย
แต่คือท่าพื้นฐานที่จะทำให้ทุกคน “ใช้ชีวิตได้ดีขึ้น” ตั้งแต่การลุกจากเก้าอี้ ไปจนถึงการวิ่งขึ้นบันได
โค้ชเองใช้ท่านี้มาไม่ต่ำกว่า 10 ปี ทั้งตอนแข่งวิ่งเทรล ฮาล์ฟมาราธอน และการประกวดฟิตเนสหญิงระดับประเทศ
ถ้าคุณฝึกอย่างถูกต้อง เข้าใจหลักกล้ามเนื้อ และใส่ใจในจังหวะการฝึก
ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ หรือเพิ่งเริ่มต้นวันแรก…
“คุณสร้างขาที่มั่นคง แข็งแรง และสวยในแบบของคุณเองได้แน่นอนค่ะ”
🔗 บทความนี้เขียนโดย
โค้ชปุนิ่ม (นางสาวมนัสนันท์ อรรณพวรรณ)
- แชมป์ Mr. Thailand 2025
- แชมป์ Thailand Open Masters Games 2025
- ผู้เชี่ยวชาญการฝึกกล้ามเนื้อเฉพาะจุด ฟิตเนสโมเดล และนักวิ่งสายเทรล
- เทรนเนอร์ส่วนตัวประจำ Smartgym Fitness Thailand
- ประสบการณ์มากกว่า 10 ปีในสนามประกวดและการสอนจริง