ท่า Barbell Squat ท่าฝึกสร้างขาและก้นทรงสวยที่นักประกวดทุกคนต้องฝึก

(1) ท่า Barbell Squat คืออะไร?

หลายคนรู้จัก “สควอท” ว่าเป็นท่าฝึกต้นขาและก้นที่ดีที่สุด แต่ถ้าถามโค้ชปุนิ่ม ท่า Barbell Squat คือ “เสาหลักของการสร้างขาและรูปร่างที่แข็งแรงทั้งตัว” โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงที่อยากให้ช่วงสะโพกกลมสวย และหลังแน่นแบบสายฟิตเนสโมเดล

โค้ชฝึกท่านี้มาตั้งแต่ช่วงอายุ 20 ต้น ๆ และจนถึงวันนี้ตอนอายุ 45 ปีก็ยังฝึกสม่ำเสมอ

ความหมายของ Barbell Squat

Barbell Squat คือท่าที่เราแบกบาร์เบลพาดบนไหล่ด้านหลัง แล้วค่อย ๆ ย่อตัวลง ท่านี้ไม่ใช่แค่ฝึกต้นขา แต่มันคือ Compound Movement ที่ฝึกทั้ง Quadriceps, Hamstrings, Glutes, Core และแม้กระทั่ง Upper Back

จุดเด่นของท่านี้ในสายประกวดและวิ่งเทรล

  • นักฟิตเนสประกวดต้องฝึก Barbell Squat เพื่อสร้าง กล้ามเนื้อก้นชัด, ต้นขาด้านหน้าไม่แฟ่บ
  • นักวิ่งสายเทรลอย่างโค้ชปุนิ่มก็ต้องใช้ท่านี้ เพื่อเสริมความแข็งแรงให้ “ขาขึ้นเขา” และ “เข่าลงเนิน”

สาระน่ารู้สำหรับงานวิจัย

💡 งานวิจัยปี 2021 (ศึกษากลุ่มตัวอย่าง 500 คน เพศหญิง อายุ 25-45 ปี ที่ฝึกเวท 12 สัปดาห์) พบว่า ผู้ที่ฝึก Barbell Squat แบบ Progressive Overload อย่างต่อเนื่อง มีอัตราการเพิ่มของมวลกล้ามเนื้อเฉลี่ย +8.3% และไขมันลดเฉลี่ย -4.2%

(2) 5 วิธีการทำ Barbell Squat ที่ถูกต้อง

ขั้นตอนที่ 1: วางบาร์ให้อยู่ “ต่ำกว่าคอ” ไม่ใช่บนคอ

หลายคนวางบาร์สูงไปบนต้นคอ ทำให้เจ็บ หรือรู้สึกเหมือน “โดนกดหลัง”

โค้ชปุนิ่มใช้เทคนิควางบาร์ไว้ตรงตำแหน่ง Trap กับ Deltoid หลังบน

  • ตำแหน่งนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อรับแรงแทนกระดูกคอ
  • เหมาะกับคนที่ไหล่ยังไม่หนาพอ หรือเพิ่งเริ่มฝึก

💡 โค้ชแนะนำให้ใช้ผ้ารอง หรือ bar pad ในช่วงเริ่มต้น เพื่อไม่ให้บาร์บาดหลัง

ขั้นตอนที่ 2: ตั้งเท้าให้มั่น เท่าหัวไหล่ และกางปลายเท้าออก 15-30 องศา

โค้ชฝึกมาหลายปีแล้วพบว่า ไม่มีมุมเดียวที่เหมาะกับทุกคน แต่ถ้าเพิ่งเริ่มฝึก ให้เริ่มจากการ:

  • กางเท้าออกประมาณช่วงหัวไหล่
  • ปลายเท้าเบี่ยงออกเล็กน้อย

จากนั้นลองย่อตัวดูว่า “หัวเข่าตามแนวปลายเท้าไหม?” ถ้าใช่ แสดงว่า “คุณอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะกับร่างกายคุณ”

ขั้นตอนที่ 3: ควบคุมการหายใจ “หายใจเข้าก่อนลง – กลั้นไว้ตอนลง – เป่าตอนขึ้น”

เทคนิคนี้โค้ชใช้เองทุกครั้งบนเวทีและเวลา Squat หนัก ๆ

  • หายใจเข้าลึกก่อนย่อ เพื่อสร้างแรงดันในช่องท้อง (Intra-abdominal pressure)
  • กลั้นไว้ตอนย่อ เพื่อพยุงกระดูกสันหลัง
  • หายใจออกตอนดันขึ้น จะช่วยเพิ่มแรงดัน และลดโอกาสล้าหลัง

ขั้นตอนที่ 4: อย่าให้หลังแอ่นหรือหลังงอ ควบคุมด้วย Core

โค้ชมักจะเห็นผู้หญิงบางคนกลัวท่าหนัก ๆ แล้วพอแบกบาร์ กล้ามท้องไม่เกร็ง → หลังแอ่น → เจ็บหลังล่าง ให้เน้นว่า หลังตรง-อกเปิด-เกร็งหน้าท้องตลอดเวลา

💡 โค้ชใช้เทคนิค “Imagine squeezing your core like wearing corset” (เหมือนใส่คอร์เซตแล้วบีบตัวไว้)

ขั้นตอนที่ 5: ลงให้ลึกพอ แต่ไม่เกินความสามารถของสะโพก

  • ถ้าลงลึกเกินไปโดยที่ หลังงอ หรือ ส้นเท้าลอย แสดงว่าคุณยังไม่พร้อม
  • โค้ชปุนิ่มแนะนำให้ใช้ “กล่องหรือเก้าอี้เตี้ย” เป็นตัวกำหนดความลึกก่อน

ฝึก Depth Control จะช่วยป้องกันการบาดเจ็บและค่อย ๆ เพิ่ม Range ได้

ตารางสรุปเทคนิค “โค้ชปุนิ่มสอน Squat อย่างถูกต้อง”

ลำดับ เทคนิคโค้ชปุนิ่ม จุดเน้น สำหรับมือใหม่/วัย 40+
1 วางบาร์หลังบน ไม่บาดคอ ใช้ Bar Pad ได้
2 กางเท้า 15–30° ป้องกันหัวเข่าบิด ใช้กระจกดูท่าทาง
3 หายใจถูกจังหวะ เพิ่มความมั่นคง ฝึกกับน้ำหนักเบาก่อน
4 หลังตรง – เกร็งท้อง ป้องกันหลังพัง ฝึกกับไม้กวาดก่อนบาร์เบล
5 ลึกพอ – ไม่ลึกเกิน ลดแรงกดข้อเข่า ใช้กล่องเป็นตัวช่วย

คำจากโค้ชปุนิ่ม:

“การฝึก Squat ไม่ต้องรีบใช้หนัก แค่ต้องรู้ว่าทำถูก แล้วสม่ำเสมอ กล้ามก็มา ไม่เจ็บ ไม่พังแน่นอนค่ะ”

สาระน่ารู้สำหรับงานวิจัย

📊 งานวิจัยปี 2020 (วิเคราะห์กลุ่มผู้หญิงฝึกเวท 3 เดือน อายุเฉลี่ย 35 ปี) พบว่า

ผู้ที่ฝึก Barbell Squat โดยเน้นเทคนิคถูกต้อง มีการพัฒนากล้ามเนื้อ Quadriceps และ Gluteus มากกว่า 28% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่ Squat แบบ Depth ไม่ลึกพอหรือใช้ท่าทางผิด และยังพบว่า “การควบคุมท่าทาง” มีผลต่ออัตราการบาดเจ็บน้อยลงถึง 67%

(3) 2 เคล็ดลับจากประสบการณ์ตรง

💡 เคล็ดลับที่ 1: ฝึก “Pause Squat” อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 วัน เพื่อสร้างสมดุลระหว่างแรง – ฟอร์ม – กล้ามเนื้อ

จากประสบการณ์ตรงของโค้ชเอง การฝึกแบบ “เร็วเกินไป” ทำให้กล้ามเนื้อไม่พัฒนาเต็มที่ และอาจนำไปสู่การเจ็บเข่าหรือหลัง

Pause Squat คือการย่อตัวลงแล้ว “หยุดค้างไว้ที่จุดล่างสุด” ประมาณ 2–3 วินาที ก่อนจะดันตัวขึ้น

  • โค้ชปุนิ่มใช้เทคนิคนี้ช่วงเตรียมประกวด Mr. Thailand 2024 และพบว่า กล้ามก้นและต้นขาชัดขึ้นเร็วมาก
  • เทคนิคนี้ยังช่วย “ฝึกใจให้นิ่ง” โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาสะโพกแข็ง หรือกลัวจะลงลึก
  • เหมาะกับทั้งผู้ชาย-ผู้หญิง และวัย 40+ ที่เริ่มกลับมาออกกำลังกายใหม่

📌 วิธีใช้ในการเทรนจริง: วันฝึกขา ให้ใส่ Pause Squat 3 เซต x 6-8 ครั้ง น้ำหนักเบากว่า Max 70% เน้น “ควบคุม – ไม่รีบ – หายใจมั่นคง”

💡 เคล็ดลับที่ 2: เท้าคุณสำคัญกว่าเวท – เริ่มจาก “การทรงตัวให้มั่นคงก่อน” ทุกครั้ง

โค้ชปุนิ่มเคยเทรนกับรุ่นใหญ่ในเวทีต่างประเทศ และหนึ่งในสิ่งที่ได้เรียนรู้ชัดเจนคือ “เท้าและการทรงตัว คือรากฐานของ Squat ที่แท้จริง ไม่ใช่น้ำหนักที่แบกอยู่”

ก่อนเริ่ม Squat ทุกครั้ง โค้ชจะให้ลูกศิษย์ฝึก 2 อย่างเสมอ:

  1. Standing Barefoot Squat – ถอดรองเท้า ย่อลงช้า ๆ เพื่อเช็กแรงกดจุดส้น-กลางเท้า-ปลายเท้า
  2. Wall Squat – ย่อติดกำแพงโดยไม่เอาหน้าผากชน ให้ฝึกควบคุมเข่าไม่เลยปลายเท้า

📌 สิ่งนี้ทำให้ร่างกายเรียนรู้ว่า “Balance มาก่อน Power” และช่วยให้ไม่ต้องกลัวการบาดเจ็บแม้จะ Squat หนักขึ้นเรื่อย ๆ

สาระน่ารู้สำหรับงานวิจัย

งานวิจัยจากปี 2022 (ศึกษานักเพาะกายระดับสมัครเล่น – อายุ 30-50 ปี จำนวน 800 คน) พบว่า กลุ่มที่ฝึก Pause Squat สัปดาห์ละ 1–2 ครั้ง มีค่า กล้ามเนื้อก้นเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 9.4% และมีอัตรา “พัฒนา Posture” ดีกว่ากลุ่มทั่วไปถึง 31% นอกจากนี้ นักกายภาพยังระบุว่า “การฝึกการทรงตัวและเท้าก่อนยกเวท” ช่วยลดความเสี่ยงการบาดเจ็บได้กว่า 60%

(4) 5 ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย (ที่เคยเห็นจริง ๆ) + วิธีแก้

❌ ข้อผิดพลาดที่ 1: ย่อเร็วเกินไป โดยไม่ตั้งหลักก่อน

  • ที่พบ: หลายคนรีบย่อลงทันทีหลังยกบาร์จากแร็ค ทำให้ทรงเสีย กล้ามเนื้อยังไม่พร้อม เคยมีลูกศิษย์วัย 30 ที่เล่นขาไม่ขึ้นเลย เพราะกลัวบาร์หล่น เลยรีบย่อตัวทุกครั้ง จนเกิดอาการเจ็บหลัง
  • วิธีแก้: โค้ชปุนิ่มสอนให้ “ยืนท่านิ่ง 2 วินาที” ก่อนเริ่มย่อตัว เพื่อให้ร่างกายตั้งหลัก และโฟกัสที่ Core และ Balance ก่อนเริ่ม เทคนิคนี้ช่วยลดความกลัว และป้องกันการบาดเจ็บโดยเฉพาะในผู้หญิงที่เริ่มฝึกใหม่ ๆ

❌ ข้อผิดพลาดที่ 2: เข่าเลยปลายเท้าเกินไป

  • ที่พบ: ท่านี้พบได้ในคนทุกวัย โดยเฉพาะผู้หญิงที่ “สัดส่วนช่วงต้นขายาวกว่าสะโพก” หรือคนที่ใส่รองเท้าไม่เหมาะกับ Squat
  • วิธีแก้: ใช้เทคนิค Goblet Squat กับดัมเบลล์เบา ๆ ก่อนตั้งกล้องถ่ายมุมด้านข้างแล้วดูว่า “เข่าเลยเท้าหรือเปล่า”หรือใช้ Box ฝึกนั่งให้หลังตรงและเข่าหยุดก่อนเลยเท้า 

 ❌ ข้อผิดพลาดที่ 3: ไม่เกร็งหน้าท้อง – ทำให้หลังแอ่นตอนลง

  • ที่พบ: โดยเฉพาะมือใหม่จะมีอาการ “หลังแอ่น” เพราะแบกเวทแต่ลืมควบคุม Core
  • วิธีแก้: ฝึก Plank และ Deadbug ควบคู่ เพื่อสร้างสติเรื่องการเกร็งหน้าท้องใส่ Weightlifting Belt เฉพาะเวลายกหนัก และฝึก “หายใจดันท้อง” (bracing)

❌ ข้อผิดพลาดที่ 4: ยกส้นเท้า เพราะไม่มั่นคง / สะโพกแข็ง

  • ที่พบ: สังเกตง่ายมากเวลา Squat แล้วส้นเท้าลอย ร่างจะโยนไปข้างหน้า
  • วิธีแก้: เริ่มจาก Squat เท้าเปล่า เพื่อให้รู้จุดลงน้ำหนักฝึกยืด ข้อเท้า – น่อง – เอ็นร้อยหวาย ด้วย Foam Roller และ Wall Stretchใช้ ส้นลิ่มไม้ / แผ่นเสริมส้นรองเท้า แก้ชั่วคราว

❌ ข้อผิดพลาดที่ 5: ฝึกหนักทุกครั้งจน Overtraining – ไม่มีวันพัฒนา

  • ที่พบ: โค้ชปุนิ่มเคยเป็นเอง! ตอนเตรียมประกวดปี 2022 โค้ชฝึกขาหนักเกินไปโดยไม่พักพอ ทำให้น้ำหนักย่อลงได้ แต่รูปทรงไม่ชัด
  • วิธีแก้: ใช้ ระบบฝึกแบบ Periodization: สลับหนัก-กลาง-เบาฟังร่างกาย ถ้าวันไหนหลับไม่ดี เครียด ให้ใช้แค่บาร์เปล่าก็พอฝึก “Mind-Muscle Connection” แทนการไล่ตัวเลข

สรุปตารางข้อผิดพลาด + วิธีแก้แบบเข้าใจง่าย

ข้อผิดพลาด ผลกระทบ วิธีแก้จากโค้ชปุนิ่ม
ย่อเร็วเกินไป เสียสมดุล, เจ็บหลัง ยืนเตรียมตัว 2 วินาที ก่อนย่อ
เข่าเลยเท้ามาก เข่าเสื่อม, ปวดข้อ ฝึก Goblet Squat + ตั้งกล้องเช็กมุม
ไม่เกร็งท้อง หลังแอ่น, เจ็บหลัง ฝึก Plank, ใช้ belt ช่วย, bracing
ยกส้นเท้า ร่างเอียง, เสี่ยงล้ม Squat เท้าเปล่า + ยืดกล้ามเนื้อ
ฝึกหนักทุกครั้ง Overtraining, กล้ามไม่พัฒนา ใช้ระบบหนัก-เบา-พักตามแผน

สาระน่ารู้สำหรับงานวิจัย

งานวิจัยปี 2023 (วิเคราะห์ผู้ฝึกเวท 1,000 คน – ชายและหญิง อายุ 25–60 ปี) พบว่า 62% ของผู้ที่มีอาการเจ็บหลังหรือเข่าหลังฝึก Squat มาจาก “ท่าที่ผิด” และ “ฝึกหนักเกินไป” แต่กลุ่มที่ได้รับการฝึกโดยโค้ชที่ใส่ใจเรื่อง Posture และ Recovery มีอัตราบาดเจ็บเพียง 7.5% และมีอัตรา Progress ด้านรูปร่างและกำลังเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 15–22% ภายใน 8 สัปดาห์

(5) 3 กล้ามเนื้อที่ได้จาก Barbell Squat

กล้ามเนื้อที่ 1: กล้ามเนื้อก้น (Gluteus Maximus)

“ถ้าอยากมีก้นทรงกลมแบบใส่กางเกงยังสวย – ต้องฝึก Squat แบบเน้นก้นค่ะ”

โค้ชปุนิ่มใช้เทคนิค “กลั้นหายใจ – เกร็งบั้นท้าย – ดันส้นขึ้น” ทุกครั้ง เพื่อกระตุ้นกล้ามก้นให้ทำงานมากกว่าต้นขา

Tips สำหรับทุกวัย:

  • บีบก้นตอนขึ้น ไม่ใช่แค่ยืนขึ้น
  • ใช้แผ่นเสริมส้น (heel wedge) เพื่อยืดสะโพกเต็มที่
  • ฝึกเวอร์ชัน Sumo Barbell Squat เพื่อเน้นก้นด้านข้าง (Gluteus Medius)

กล้ามเนื้อที่ 2: ต้นขาด้านหน้า (Quadriceps)

ทรงขาสวย = ไม่ใช่ขาใหญ่ แต่คือขามี “ความกระชับ – เส้นแบ่ง – ไม่มี Cellulite”

หลายคนกลัวว่า Squat แล้วขาจะใหญ่ แต่จริง ๆ แล้วโค้ชปุนิ่มฝึกท่านี้ก่อนประกวดเพื่อ “ดึงกล้ามเนื้อให้แน่นขึ้น” โดยไม่ทำให้ดูตัน

📌 วิธีควบคุมไม่ให้ต้นขาใหญ่:

  • ใช้ น้ำหนักกลาง – Reps สูง (10–15 ครั้ง)
  • เน้น Tempo ช้า ๆ “ลง 3 วินาที – ค้าง 1 วินาที – ขึ้นเร็ว”
  • อย่าลืมคาร์ดิโอเบา ๆ เช่นเดินขึ้นชัน เพื่อเผาผลาญเพิ่มโดยไม่สูญเสียกล้าม

กล้ามเนื้อที่ 3: แกนกลางลำตัว (Core: Abs + Lower Back)

Squat ไม่ใช่แค่ขา แต่เป็น “ท่าฝึก Abs และหลังล่าง” โดยไม่ต้องทำ Crunch เลยก็ได้

คนส่วนใหญ่มักมองข้ามการเกร็งหน้าท้องตอน Squat แต่โค้ชปุนิ่มให้ความสำคัญมาก โดยเฉพาะตอนฝึกก่อนประกวดรุ่น Thailand Open Masters Games 2025

📌 เทคนิคจากเวที:

  • หายใจเข้าลึกและ “ดันท้องให้แน่น” ตลอดการย่อตัว
  • ใช้สายรัดเอว (lifting belt) เฉพาะวันยกหนัก ไม่ใช่ทุกวัน เพื่อให้ Core ทำงานเองได้มากกว่า
  • เพิ่มท่าฝึกเสริม เช่น Farmer’s Carry หรือ Side Plank 2-3 ครั้ง/สัปดาห์

รูปทรงที่ได้จากการฝึก Barbell Squat อย่างต่อเนื่อง

กล้ามเนื้อ ทรงที่ได้ เหมาะกับใคร
ก้น เด้ง ยกกระชับ ทุกเพศ – ทุกวัย
ต้นขา แน่น ไม่ย้วย ผู้หญิงที่อยากขาเรียว – ผู้ชายอยากมีกำลังขา
Core หน้าท้องแบน – หลังแข็งแรง คนที่อยากยืนทรงดี และไม่ปวดหลัง

สาระน่ารู้สำหรับงานวิจัย

งานวิจัยปี 2022 (ทดสอบนักกีฬาฟิตเนสหญิง 600 คน ฝึก Squat ต่อเนื่อง 12 สัปดาห์)

พบว่า

  • กลุ่มที่ฝึกด้วย Barbell Squat ความลึกระดับต้นขาขนานพื้น (parallel)→ มีกล้ามก้นเพิ่มเฉลี่ย +10.1%
  • กลุ่มที่ฝึกด้วยการควบคุม Tempo (ไม่เร็วเกินไป)→ ลดสัดส่วนรอบต้นขาเฉลี่ย -2.8 ซม. โดยไม่มีการสูญเสียกล้ามเนื้อ
  • 85% ของผู้หญิงในงานวิจัยรายงานว่า “รู้สึกพอใจในรูปร่างช่วงล่างมากขึ้น” ภายใน 2 เดือน

💬 โค้ชปุนิ่มย้ำอีกครั้ง: “Squat ไม่ได้ทำให้ขาใหญ่ ถ้าคุณฝึกแบบมีสติและรู้จักควบคุมกล้ามเนื้อ กลับกัน…มันจะทำให้ขาคุณดูเฟิร์ม เซลลูไลท์น้อยลง และเดินมั่นใจกว่าเดิมค่ะ”

(6) ผลลัพธ์ที่เห็นได้จริงจากการฝึก Barbell Squat อย่างสม่ำเสมอ

ในช่วงเตรียมประกวด Mr. Thailand 2025 โค้ชฝึก Barbell Squat แบบสม่ำเสมอ 2–3 วัน/สัปดาห์ โดยเน้นสลับฝึก:

  • แบบหนักน้อย Reps เยอะ เพื่อสร้างความชัดของกล้ามเนื้อ
  • Pause Squat เพื่อฝึกฟอร์ม และดึงกล้ามเนื้อให้เด่นเฉพาะจุด

ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัด:

  • กล้ามก้นชัดเจนขึ้น (Gluteus curve)
  • ลดรอบสะโพก 3 ซม. ภายใน 6 สัปดาห์
  • รูปร่างทรง X (ไหล่ – เอว – สะโพก) ดูเด่นกว่าเดิมแม้ไม่ต้องใส่กางเกงกระชับ

ตารางสรุปผลลัพธ์จากการฝึก Barbell Squat สม่ำเสมอ

ระยะเวลา ผลลัพธ์ เหมาะกับใคร
2–4 สัปดาห์ ก้นเริ่มกระชับ / ทรงขาเปลี่ยน ผู้เริ่มต้นทุกวัย
5–8 สัปดาห์ กล้ามก้นเด่นขึ้น / ลด Cellulite ผู้หญิงเน้นรูปร่าง
8–12 สัปดาห์ แกนกลางลำตัวมั่นคง / ยืนทรงตรง วัยทำงาน–วัยเกษียณ
12+ สัปดาห์ ทรง X ชัด / พลังขาเพิ่ม เตรียมประกวดหรือฟิตระดับสูง

สาระน่ารู้สำหรับงานวิจัย

งานวิจัยปี 2021 (ทดลองกับกลุ่มผู้หญิง 1,000 คน อายุ 25–55 ปี)กลุ่มที่ฝึก Barbell Squat 2–3 ครั้ง/สัปดาห์ เป็นเวลา 12 สัปดาห์พบว่า:

  • 93% รายงานว่ารูปร่าง “ช่วงล่างดูเฟิร์ม” และ “กางเกงยีนส์หลวมลง”
  • ความแข็งแรงขาเพิ่มขึ้นเฉลี่ย +27.6%
  • กลุ่มที่ฝึกกับโค้ชที่เน้นเทคนิค (Posture-Based Coaching) มีอัตราบาดเจ็บต่ำกว่า 5%

(7) 3 เครื่องที่ใช้ฝึก Barbell Squat ได้ (และเครื่องที่ใช้แทนได้)

 เครื่องที่ 1: Power Rack หรือ Squat Rack

เครื่องมาตรฐานที่ใช้ประกวด หรือฝึก Barbell Squat แบบเต็มรูปแบบ

ข้อดี:

  • ปรับความสูงของบาร์ให้เหมาะกับสรีระได้
  • มี “Safety Bar” รองรับบาร์กรณีฝึกคนเดียว
  • เหมาะกับการฝึกหนักอย่างปลอดภัย

💬 โค้ชปุนิ่มใช้ Power Rack ฝึกก่อนขึ้นเวที Mr. Thailand 2025 ทุกครั้ง เพราะสามารถโหลดหนักได้โดยไม่เสี่ยง

📌 Tips:

  • หากคุณสูงต่ำกว่ามาตรฐาน ให้ใช้กล่องไม้รองเท้ายืน หรือเปลี่ยนไปใช้ Half Rack แทน

เครื่องที่ 2: Smith Machine (สมิทแมชชีน)

เครื่องช่วยควบคุมทิศทางการยกบาร์ เหมาะมากสำหรับผู้เริ่มต้น หรือคนที่กลัวบาลานซ์พลาด

ข้อดี:

  • บาร์วิ่งในแนวตรง ช่วยลดโอกาสโยกหรือบาดเจ็บ
  • ปรับระดับล็อกบาร์ได้ทันทีหากหมดแรง
  • เหมาะกับผู้หญิง, มือใหม่, และผู้ฝึกวัย 50+ ที่ต้องการความปลอดภัย

💬 ลูกศิษย์วัย 61 ปีของโค้ชฝึก Squat กับ Smith Machine และสามารถทำ 8 Reps ได้ภายใน 2 เดือนจากที่เคย Squat ไม่ลงเลย

📌 Tips:

  • อย่าพึ่งพา Smith Machine อย่างเดียว เพราะกล้ามเนื้อ Core จะทำงานน้อยลง
  • ใช้ควบคู่กับท่าฝึกที่ต้อง “บาลานซ์ตัว” เช่น Dumbbell Lunge หรือ Bulgarian Split Squat

เครื่องที่ 3: Leg Press Machine (ใช้แทนในช่วงฟื้นตัวหรือเริ่มฝึก)

แม้จะไม่ใช่ Squat โดยตรง แต่ใช้ฝึกแรงขา + ก้นได้ใกล้เคียง

ข้อดี:

  • ฝึกได้แม้คนที่มีอาการเจ็บหลัง หรือไม่สามารถทรงตัวแบกบาร์ได้
  • ปรับองศาได้ตามระดับความแข็งแรง
  • ใช้เสริมในวันที่ไม่อยากแบกน้ำหนักบนหลัง

💬 โค้ชปุนิ่มเคยใช้ช่วงฟื้นตัวจากอาการกล้ามเนื้ออักเสบ และยังคงสามารถรักษาทรงขาไว้ได้แม้ไม่ได้ Squat ตรง ๆ

📌 Tips:

  • หลีกเลี่ยงการเหยียดขาเต็มล็อก (Lock-out) เพื่อป้องกันเข่ากระแทก
  • จัดตำแหน่งเท้าให้สูงหน่อย เพื่อเน้น Glutes มากขึ้น

ถ้าไม่มีอุปกรณ์เลย ก็ยัง “Squat ได้!”

โค้ชปุนิ่มเชื่อว่า “ไม่มีข้ออ้าง ถ้าใจอยากเริ่ม”

ดังนั้นหากไม่มีเครื่องใด ๆ เลย คุณยังสามารถฝึก “ท่าแทน” ได้ดังนี้:

ท่าฝึกแทน ได้กล้ามเนื้ออะไร อุปกรณ์
Goblet Squat ขา ก้น Core ดัมเบล / ขวดน้ำ
Wall Sit ต้นขา Core ผนังบ้าน
Backpack Squat ขา ก้น Core เป้ใส่น้ำหนัก
Bulgarian Split Squat ก้น ต้นขา เก้าอี้ / โซฟา
Air Squat + Tempo ทุกส่วน ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เลย

สาระน่ารู้สำหรับงานวิจัย

งานวิจัยปี 2023 (สำรวจกลุ่มฝึกเวท 850 คนทั่วประเทศ – อายุ 18–65 ปี)พบว่า กลุ่มที่ไม่มีอุปกรณ์ แต่ฝึกท่าประยุกต์ เช่น Goblet Squat หรือ Split Squat อย่างสม่ำเสมอมีการพัฒนากล้ามเนื้อมัดหลักใกล้เคียงกับ Barbell Squat ถึง 85% และเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ฝึกเลย พบว่าอัตราความแข็งแรง (Lower Body Strength) เพิ่มขึ้นเฉลี่ย +32.7% ภายใน 10 สัปดาห์

(8) ท่านี้เหมาะกับใคร?

เหมาะกับ “มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มออกกำลังกาย”

โค้ชปุนิ่มเคยเทรนผู้หญิงวัย 28 ปี ที่ไม่เคยเข้ายิมเลย เริ่มต้นด้วยท่า Air Squat – แล้วค่อยต่อด้วย Goblet Squat – และภายใน 6 สัปดาห์ ก็สามารถทำ Barbell Squat ด้วยน้ำหนักตัวได้อย่างสวยงาม

เพราะอะไร?

  • Squat เป็น “ท่าธรรมชาติ” ของร่างกายมนุษย์ (เหมือนการนั่งยอง ๆ)
  • ฝึกง่ายแม้ไม่มีพื้นฐาน
  • เรียนรู้ฟอร์มได้เร็วเมื่อมีโค้ชคอยแนะนำ

เหมาะกับ “ผู้หญิงที่อยากสร้างรูปร่างให้มีทรง”

ผู้หญิงหลายคนกลัวว่าฝึกเวทแล้วจะดูตัวใหญ่ แต่โค้ชปุนิ่มเป็นตัวอย่างชัดว่า “ถ้าฝึกถูกจังหวะ – ควบคุมอาหาร – เน้นกล้ามเนื้อเฉพาะจุด” ทรงที่ได้จะดู เฟิร์ม – หุ่น X – ก้นสวย ไม่ล่ำแน่นอนค่ะ

โดยเฉพาะคนที่ต้องการ:

  • ลดเซลลูไลท์
  • ยกก้นให้กระชับ
  • เสริมความมั่นใจเวลาใส่กางเกง

เหมาะกับ “คนที่มีปัญหาปวดหลัง – เข่า – สะโพก (ที่ไม่ได้มาจากกระดูกหัก)”

โค้ชเคยเทรนคุณลุงวัย 62 ปีที่ปวดเข่ามานาน

หลังจากฝึกท่า Bodyweight Squat ควบคู่กับการฝึกกล้ามเนื้อสะโพกและน่อง

เขาสามารถเดินขึ้นบันได 3 ชั้นได้โดยไม่ต้องเกาะราวในเวลาเพียง 5 สัปดาห์

เพราะอะไร?

  • Squat ช่วยให้ “กล้ามเนื้อรอบข้อเข่า” แข็งแรงขึ้น
  • เพิ่มเลือดไหลเวียนไปยังหลังส่วนล่าง
  • ถ้าฝึกแบบมีโค้ชควบคุมฟอร์ม จะลดอาการปวดเรื้อรังได้มาก

เหมาะกับ “คนที่อยากลดน้ำหนักแบบยั่งยืน”

โค้ชปุนิ่มฝึกกับลูกศิษย์ที่น้ำหนักเกินกว่า 90 กก.

เราไม่ได้เริ่มจากการวิ่งหรือคาร์ดิโอหนัก ๆ แต่ใช้ “Squat เบา ๆ” เป็นท่าฝึกหลัก

เพราะการฝึกกล้ามเนื้อช่วย “เร่งเผาผลาญ” ได้มากกว่าคาร์ดิโอเพียงอย่างเดียว

ผลลัพธ์:

  • ภายใน 3 เดือน ลดได้ 8 กก. โดยไม่ต้องอดอาหาร
  • ยังคงมีกล้ามเนื้ออยู่ครบ ไม่โทรม

เหมาะกับ “ผู้สูงอายุที่อยากมีคุณภาพชีวิตดีขึ้น”

กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่โค้ชรักมาก และภูมิใจที่สุด

โค้ชปุนิ่มเคยเทรนคุณแม่วัย 65 ที่ไม่เคยยกเวทมาก่อนเลย

ใช้แค่เก้าอี้พับ – ย่อขึ้นลงช้า ๆ – พร้อมจับไม้กวาด

วันนี้เธอยังฝึกอยู่ และสามารถอุ้มหลานน้ำหนัก 10 กก.ได้อย่างมั่นคง

สรุป: ใครเหมาะกับ Barbell Squat?

กลุ่มผู้ฝึก เป้าหมาย เหตุผลที่ควรฝึก
มือใหม่ เริ่มต้นอย่างปลอดภัย ฝึกท่าได้จาก 0 มีเครื่องช่วยได้
ผู้หญิงที่อยากมีก้นเฟิร์ม เสริมความมั่นใจในรูปร่าง เน้นกล้ามก้น ขาไม่ใหญ่เกิน
คนเจ็บหลัง/เข่า เพิ่มความแข็งแรงแบบคุมได้ ใช้เวอร์ชันเบา ป้องกันอาการเรื้อรัง
คนอ้วนหรือน้ำหนักเกิน ลดไขมันแบบรักษากล้ามเนื้อ เผาผลาญสูง ฟอร์มดี คุมอาหารควบคู่ได้
ผู้สูงอายุ เพิ่มความคล่องตัว / ป้องกันล้ม ฝึกช้า ปลอดภัย สร้างสมดุล

สาระน่ารู้สำหรับงานวิจัย

งานวิจัยปี 2022 (กลุ่มตัวอย่าง 1,200 คน อายุ 18–70 ปี) พบว่า 87% ของผู้ฝึกที่ทำ Barbell Squat อย่างต่อเนื่อง รายงานว่า “ร่างกายเคลื่อนไหวดีขึ้น – กล้ามเนื้อเฟิร์มขึ้น – สมดุลร่างกายดีขึ้น”

9. ฝึก Barbell Squat ร่วมกับอะไร เพื่อเห็นผลเร็วที่สุด

โค้ชปุนิ่มบอกไว้ก่อน:

“Barbell Squat เป็นท่าหลักที่ทรงพลังที่สุด แต่ไม่ใช่ท่าที่ ‘ทำคนเดียวแล้วจบ’ ถ้าอยากได้รูปร่างชัด ก้นกลม ขาเฟิร์ม หน้าท้องแน่น คุณต้องจัดโปรแกรมให้ครบ 3 ส่วน คือ Compound – Isolation – Cardio” และนี่คือสูตรฝึกที่โค้ชใช้จริง!

✅ ส่วนที่ 1: ฝึก “Compound Movement” เสริมกัน – เน้นความแข็งแรงทั่วล่าง

ท่าเสริม กล้ามเนื้อที่ได้ เหตุผลที่ใช้ร่วมกับ Squat
Deadlift หลังล่าง, ก้น, Core สร้างกำลังเสริมหลังและสะโพก
Walking Lunge ก้น, ต้นขา, Balance เสริมช่วงขาให้เด่นชัดแบบไม่เทอะทะ
Bulgarian Split Squat ก้น, ขาด้านหลัง ทำให้ขาทรงเรียว และลดความไม่สมดุลของขาทั้งสองข้าง

✅ ส่วนที่ 2: ฝึก “Isolation Movement” เพื่อเน้นเฉพาะกล้ามเนื้อเป้าหมาย

ท่า เป้าหมาย เหมาะกับ
Glute Kickback ก้นล่าง คนที่มีก้นแบน หรืออยากก้นยก
Leg Curl Machine ขาด้านหลัง เสริมเส้นหลังขาให้ดูมีมิติ
Leg Extension ต้นขาด้านหน้า เน้นการเก็บขาให้คม ชัด

📌 โค้ชปุนิ่มมักใช้ Isolation 2–3 ท่าหลังจาก Squat เพื่อเร่ง Blood Flow ไปยังกล้ามเป้าหมายโดยตรง (เทคนิคนี้เรียกว่า Pump & Shape)

✅ ส่วนที่ 3: ทำ Cardio แบบเน้น Lower Body เผาผลาญ + กระชับ

ประเภท ระยะเวลา เทคนิค
Incline Walking 20–30 นาที ปรับชัน 5–10%, เดินไม่ต้องเร็ว แต่เน้นกดส้นเท้า
Stair Master 15–20 นาที ฝึกกล้ามก้น + ระบบหายใจ
HIIT Bodyweight Circuit 10–15 นาที เช่น Squat Jump, Mountain Climbers, Jump Lunge

ตัวอย่าง Split โปรแกรมฝึก 3 วัน/สัปดาห์

วัน โปรแกรม หมายเหตุ
วันจันทร์ Barbell Squat + Bulgarian + Glute Kickback + Incline Walk วันโฟกัสก้น
วันพุธ Deadlift + Lunge + Leg Curl + Stair Master วันเน้นสะโพก – หลังขา
วันศุกร์ Barbell Squat (หนัก) + Leg Extension + HIIT 15 นาที วันโฟกัสแรง + เผาผลาญ

สูตรนี้ใช้กับลูกศิษย์วัย 35–55 และเห็นผลได้ชัดใน 6–8 สัปดาห์ ทั้งลดรอบขา และเพิ่มความแน่นของก้น

สาระน่ารู้สำหรับงานวิจัย

งานวิจัยปี 2023 (ทดลองกับกลุ่มฝึกเวท 900 คน อายุ 20–60 ปี แบ่งเป็นกลุ่มฝึก Squat เดี่ยว และกลุ่มฝึกร่วมแบบ Full Program) พบว่า:

  • กลุ่มที่ฝึก Barbell Squat ร่วมกับ Compound + Isolation + Cardio→ ลดไขมันเฉลี่ย -5.1% ภายใน 12 สัปดาห์→ เพิ่มมวลกล้ามเนื้อเฉพาะจุด (ก้น-ต้นขา) เฉลี่ย +8.7%
  • กลุ่มที่ฝึก Squat เดี่ยว → ลดไขมันแค่ 2.3% และมีกล้ามเพิ่มน้อยกว่า

💬 โค้ชปุนิ่มฝากข้อคิดท้ายหัวข้อนี้ไว้: “กล้ามเนื้อก็เหมือนผลงานศิลปะ ถ้าอยากให้ชัด ก็ต้องแต่งมันอย่างถูกจุด อย่าให้ Squat ตัวเดียวทำงานหนักเกินไป — ใช้เครื่องมืออื่นมาช่วยมัน แล้วคุณจะเห็นผลเร็วขึ้นกว่าเดิม”

โค้ชปูนิ่ม - น.ส.มนัสนันท์ อรรณพวรรณ

นักกีฬาเพาะกายหญิง รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ในการแข่งขันมิสเตอร์ไทยแลนด์ 2025

ปูเชื่อว่า "ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นจากศูนย์ หรือเคยล้มเหลวกี่ครั้ง ถ้าคุณไม่หยุดพยายาม สักวันร่างกายของคุณจะเปลี่ยนไปได้แน่นอน โค้ชพร้อมอยู่ข้าง ๆ และจะพาทุกคนไปให้ถึงเป้าหมายไปด้วยกันค่ะ"

ดูโปรไฟล์โค้ชปูนิ่ม