5 วิธีการทำ Incline Dumbbell Bench Press ที่ถูกต้อง (พร้อมเทคนิคเฉพาะจากโค้ชปุนิ่ม)
โค้ชปุนิ่มสอนจากประสบการณ์จริง ไม่ใช่แค่ตามตำรา
ท่า Incline Dumbbell Bench Press ถ้าทำถูก จะช่วย “เปิดอกบน” ได้ชัดมาก ซึ่งตรงนี้หลายคนเล่นแล้วไม่รู้สึก เพราะตกหลุมพรางของการ “ผลัก” ด้วยแขน หรือยกเร็วเกินไป โค้ชปุนิ่มขออธิบายทีละขั้นตอนอย่างละเอียด พร้อมเทคนิคที่ใช้กับลูกเทรนมาหลายคนแล้วได้ผลจริง:
✅ ขั้นตอนที่ 1: จัดมุมเบาะให้พอดี (ไม่เกิน 45 องศา)
เทคนิคโค้ช: ถ้าเอียงเกินไปจะกลายเป็น Shoulder Press แทน
- มุมเบาะที่เหมาะสมที่สุดคือ 30–40 องศา จะช่วยเน้นกล้ามอกบนโดยไม่ดึงหัวไหล่มากเกินไป
- เบาะบางรุ่นมีหลายระดับ ปรับให้ลองนั่งแล้วไหล่ยังรู้สึกสบาย ไม่เกร็ง
✅ ขั้นตอนที่ 2: วอร์มไหล่ก่อนทุกครั้ง
ประสบการณ์ตรง: คนที่บาดเจ็บไหล่ตอนเล่นท่านี้ ส่วนใหญ่ไม่วอร์ม หรือยกน้ำหนักเร็วเกินไป
- ปุนิ่มมักใช้ ดัมเบลเบาๆ 1-2 เซต ในการหมุนหัวไหล่ และทำ Shoulder Rotation ก่อนเริ่ม
- ถ้าไม่มีเวลา ให้ทำ 10-15 Reps ด้วยน้ำหนักเบาก่อนจริงจัง จะช่วยป้องกันอาการบาดเจ็บได้มาก
✅ ขั้นตอนที่ 3: จับดัมเบลให้มั่น แต่ไม่เกร็งข้อมือ
เทคนิคเฉพาะ: ให้ข้อมือ “ตั้งตรง” กับทิศทางแรงโน้มถ่วง
- อย่าหงายหรือกดข้อมือ เพราะจะไปกดข้อศอกและข้อมือจนเจ็บ
- จินตนาการว่า “ดันด้วยศอก” แล้วล็อกข้อมือให้ตั้งตรงเหมือนถือขวดน้ำแนวดิ่ง
✅ ขั้นตอนที่ 4: ควบคุมทั้งขาขึ้น-ลง
เคล็ดลับจากเวทีประกวด: ถ้าอยากกล้ามชัด ต้อง “ควบคุมขาลง” ให้ช้า
- ลงช้า 2–3 วินาที แล้วดันขึ้นในจังหวะเดียว
- การดึงช้าๆ จะช่วยให้กล้ามเนื้ออกทำงานมากขึ้น ไม่ใช่แค่ส่งแรงด้วยแขน
✅ ขั้นตอนที่ 5: ระยะห่างดัมเบลขณะดันขึ้น
Insight จากลูกเทรน: ถ้าชิดเกินไป จะเคลื่อนไหวเหมือน Close Grip Press ซึ่งไปเน้น Triceps แทน
- ดันดัมเบลขึ้นแบบ “เฉียงเข้าหากันเล็กน้อย” ไม่ต้องให้มาชนกัน
- รักษาระยะห่างให้ดัมเบลขนานกัน หรือห่างประมาณ 5–10 ซม.
💡 เทคนิคพิเศษ (ใช้ตอน Peak Set)
ปุนิ่มใช้วิธีนี้เฉพาะช่วงเซตท้าย:
“หยุดค้างที่ตำแหน่งล่างสุด 1 วินาที” ก่อนดันขึ้น เพื่อเพิ่มความตึงตัวของกล้ามเนื้ออก
📌 สรุปภาพรวมเทคนิคจากโค้ชปุนิ่ม
ลำดับ | เทคนิค | เป้าหมาย | |
---|---|---|---|
1 | ปรับเบาะไม่เกิน 45 องศา | เน้นอกบน ชัด ไม่ลากไหล่ | |
2 | วอร์มไหล่ก่อนเล่น | ป้องกันบาดเจ็บ | |
3 | ข้อมือตั้งตรง | ลดแรงกด ลดบาดเจ็บ | |
4 | คุมจังหวะลง | เพิ่มกล้ามชัด | |
5 | ไม่ชนดัมเบลกัน | เน้นอก ไม่เน้นแขน |
2 เคล็ดลับจากประสบการณ์ตรงของโค้ชปุนิ่ม (ที่หลายคนมองข้าม)
สิ่งที่โค้ชปุนิ่มใช้ในการฝึกซ้อมจริง ก่อนขึ้นเวทีและสนามแข่ง
จากประสบการณ์ตรงในการเตรียมตัวแข่งขันรายการ Mr. Thailand, Payap Classic, Muscle and Physique Championships ปุนิ่มพบว่า…
คนส่วนใหญ่มัก “เล่นท่าได้” แต่ไม่ได้ “เล่นท่าให้ได้ผล” ต่างกันมากนะคะ
มาดู 2 เคล็ดลับที่ปุนิ่มใช้จริง และทำให้ทรงอกสวย ชัดแบบขึ้นเวทีได้ค่ะ:
✅ เคล็ดลับที่ 1: เล่นแบบ Unilateral (เล่นทีละข้าง)
Insight จากการฝึกก่อนขึ้นเวที
ท่านี้โดยทั่วไปเล่นสองข้างพร้อมกัน แต่โค้ชปุนิ่มใช้วิธีฝึกแบบ “เล่นทีละข้าง” สลับซ้ายขวาในบางสัปดาห์ เพราะจะช่วยให้…
- ควบคุมกล้ามเนื้อฝั่งซ้าย-ขวาได้ดีขึ้น
- ลดการ “ชดเชย” จากฝั่งที่แข็งแรงกว่าโดยไม่รู้ตัว
- รู้สึกได้ชัดมากว่ากล้ามอกฝั่งไหนยังไม่ Balance
โค้ชแนะนำ: ลองใช้ดัมเบลน้ำหนักกลางๆ แล้วนอนเฉียงบนเบาะ ฝึกดันทีละข้างแบบช้า ๆ
ทำ 8–10 ครั้งต่อข้าง แล้วจึงเปลี่ยน
✅ เคล็ดลับที่ 2: เก็บปลายดัมเบลให้ “เฉียงเข้าหาอก” ในจังหวะจบ
เทคนิคเล็ก ๆ แต่กล้ามอก “เก็บทรง” ได้ดีขึ้นมาก
ปกติแล้วบางคนจะดันดัมเบลจนแขนเหยียดตรงเกินไป หรือดัมเบลยังขนานกันในตอนจบ
โค้ชปุนิ่มใช้วิธี “บิดมือเล็กน้อยให้ปลายดัมเบลเฉียงเข้าหากัน” ในช่วงบนสุด
จะรู้สึกว่าอกบีบตัวแบบสุดทางขึ้นเวทีได้เลย!
จุดนี้คือการ “บิดข้อมือเล็กน้อย” ไม่ใช่เหวี่ยงหรือเอียงเกินไปนะคะ
🔍 เคล็ดลับทั้งสองข้อ สร้างผลต่างในกล้ามอกยังไง?
เคล็ดลับ | จุดเด่น | เหมาะสำหรับ |
---|---|---|
เล่นทีละข้าง (Unilateral) | เสริม Balance ซ้าย-ขวา | ผู้ที่อกสองข้างพัฒนาไม่เท่ากัน |
บิดดัมเบลเฉียงเข้าหากัน | บีบอกชัดเจน สร้างรูปทรง | ผู้ที่ต้องการเพิ่มความ “โค้ง-ชัด” ของอกบน |
5 ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย (ที่โค้ชปุนิ่มเคยเห็นจริง) พร้อมวิธีแก้ที่ใช้ได้จริงทุกวัย
จากประสบการณ์ตรงในการเทรนลูกศิษย์ตั้งแต่มือใหม่จนถึงเตรียมขึ้นเวที
ระหว่างที่ปุนิ่มฝึกตัวเองและเทรนลูกศิษย์มากกว่า 100 คน ตลอดหลายปีที่ผ่านมา สิ่งหนึ่งที่เจอบ่อยคือ “เล่นท่าถูก แต่ไม่รู้ว่ากำลังทำผิดอยู่”
โดยเฉพาะกับ Incline Dumbbell Bench Press ท่านี้ดูเหมือนง่าย แต่ถ้า “พลาดนิดเดียว” อาจทำให้ได้กล้ามแขนแทนอก หรือบาดเจ็บหัวไหล่ได้เลยค่ะ
มาดูกันว่า 5 ข้อผิดพลาดที่โค้ชเห็นบ่อยคืออะไร และมีวิธีแก้อย่างไรบ้าง:
❌ 1. ใช้เบาะเอียงเกินไป
ปัญหา: ไหล่ทำงานมากกว่าอก
เบาะที่เอียงเกิน 45 องศา จะเปลี่ยนท่าให้คล้าย Shoulder Press ทันที ทำให้กล้ามอกบนไม่ทำงานเต็มที่
✅ วิธีแก้: ปรับเบาะให้อยู่ที่ 30–40 องศา
ลองนั่งท่าเตรียมฝึกแล้วเช็กว่า “หน้าอกยังเปิดอยู่” และหัวไหล่ไม่ยกโดดออกมา
❌ 2. กางศอกออกข้างจนเกินแนวข้อมือ
ปัญหา: เสี่ยงเจ็บหัวไหล่ + อกทำงานไม่สุด
ศอกที่กางออกมากเกินไป จะทำให้แรงกดลงไปที่ข้อไหล่มากขึ้น แถมอกจะไม่บีบเข้าหากันอย่างมีประสิทธิภาพ
✅ วิธีแก้: ให้ศอกเฉียงลงประมาณ 45 องศา เมื่อเทียบกับลำตัว
ลองฝึกหน้ากระจก ดูว่าศอกอยู่ใต้ข้อมือเสมอหรือไม่
❌ 3. ดันดัมเบลชนกันตอนจบ
ปัญหา: แรงตกลงที่แขน ไม่ได้เน้นอก
การชนดัมเบลกันที่ปลายสุดเป็นจังหวะที่หลายคน “พัก” แรงไว้บนโครงกระดูกแทนการใช้งานกล้ามเนื้อจริง
✅ วิธีแก้: หยุดดัมเบลก่อนชนกันเล็กน้อย แล้ว “บีบอก” ในใจเหมือนพยายามขยับดัมเบลเข้าหากัน
เทคนิคนี้ปุนิ่มใช้ทุกครั้งเวลาซ้อมขึ้นเวที
❌ 4. ไม่ควบคุมจังหวะขาลง
ปัญหา: ขาด Tension → กล้ามไม่โต
หลายคนดันขึ้นแรงดี แต่ “ปล่อยทิ้ง” เวลาลง ทำให้กล้ามเนื้อไม่ได้รับแรงต้านตลอดการเคลื่อนไหว
✅ วิธีแก้: ลงช้า 2–3 วินาที คิดว่าอกกำลัง “ดึงดัมเบลลง” แทนการปล่อยไหลลงเฉย ๆ
❌ 5. เลือกน้ำหนักเกินกำลัง
ปัญหา: ฟอร์มเสีย + ไม่รู้สึกถึงอกเลย
บางคนเลือกดัมเบลหนักเกินไป เพราะคิดว่ายิ่งหนักยิ่งดี สุดท้ายใช้แขนเหวี่ยงหรือสะโพกโยกช่วย
✅ วิธีแก้: เริ่มด้วยน้ำหนักที่ยกได้ 8–12 ครั้ง แบบ “รู้สึกตึงอกทุกครั้ง”
ไม่จำเป็นต้องหนักสุด แต่ให้เล่นจนกล้ามอกล้าแสดงตัวก่อน
📌 ตารางสรุปข้อผิดพลาด + แนวทางแก้จากประสบการณ์โค้ชปุนิ่ม
ข้อผิดพลาด | ผลกระทบ | วิธีแก้ |
---|---|---|
เบาะเอียงเกินไป | เน้นไหล่แทนอก | ปรับมุม 30–40 องศา |
ศอกกางเกินแนวข้อมือ | เสี่ยงไหล่พัง | ศอกเฉียง 45 องศา |
ดัมเบลชนกัน | แรงตก ไม่บีบอก | หยุดก่อนชน แล้วบีบอก |
ไม่ควบคุมจังหวะลง | กล้ามไม่ทำงานเต็ม | ลงช้า 2–3 วิ ทุกครั้ง |
ยกหนักเกิน | ฟอร์มเสีย, กล้ามไม่โดน | ใช้น้ำหนักที่ “ตึงอก” ทุกครั้ง |