(1) ท่านี้คืออะไร?
“Split Squat” คือท่าที่โค้ชใช้สร้างความสมดุลของขาและบั้นท้ายก่อนขึ้นเวทีประกวดฟิตเนสจริง ๆ
สวัสดีค่ะ โค้ชปุนิ่มเองนะคะ — แชมป์ Mr. Thailand 2025 และแชมป์ Thailand Open Masters Games 2025 วันนี้โค้ชจะมาเล่าให้ฟังแบบละเอียดเลยว่า “ท่า Split Squat” คืออะไร และทำไมท่านี้ถึงเป็นท่าลับที่โค้ชใช้ซ้อมจริงก่อนขึ้นเวทีและสนามแข่ง
ความหมายของท่า Split Squat
Split Squat คือ “ท่าฝึกความแข็งแรงแบบ unilateral” ซึ่งหมายถึงการฝึกขาแต่ละข้างแยกกัน ไม่เหมือน Squat ปกติที่ใช้ขาทั้งสองพร้อมกัน ขาข้างหนึ่งจะอยู่ด้านหน้า อีกข้างจะอยู่ด้านหลัง โดยการเคลื่อนไหวจะเป็นลักษณะ “ลงน้ำหนักทีละข้าง” ซึ่งช่วยเพิ่มสมดุลและความแข็งแรงเฉพาะจุดได้ดีมาก ๆ
ถ้าใครเคยมีปัญหาขาไม่เท่ากัน หรือยืนไม่บาลานซ์เวลาเล่นเวท ท่านี้ช่วยได้เลยค่ะ เพราะมัน “บังคับให้แต่ละข้างทำงานเองโดยไม่พึ่งอีกข้าง”
มุมมองจากสนามแข่งของโค้ชปุนิ่ม
ก่อนขึ้นประกวดฟิตเนส โค้ชต้องฝึกให้ “กล้ามเนื้อต้นขา” ชัดเจน และมีเส้นลายที่แยกชัด ทั้ง Vastus medialis และ gluteus medius ซึ่งท่านี้เป็นหนึ่งในท่าที่ทำให้ทรงขาโค้ชดูคมชัดมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงก่อนประกวด 2 เดือน โค้ชจะฝึก Split Squat ทุกสัปดาห์
มีครั้งหนึ่งก่อนแข่งที่ลำปาง (Payap Classic 2023) โค้ชเคยหยุดฝึกท่านี้ไปแค่ 3 สัปดาห์… แล้วพบว่าความคมของบั้นท้ายด้านข้างหายไป! หลังจากนั้นไม่เคยละเลย Split Squat อีกเลยค่ะ
ความแตกต่างของ Split Squat vs Lunge
หลายคนมักจะสับสนว่า Split Squat กับ Lunge คือท่าเดียวกัน — จริง ๆ แล้ว “ไม่ใช่ค่ะ!”
เปรียบเทียบ | Split Squat | Lunge |
---|---|---|
ลักษณะท่า | ยืนอยู่กับที่ (Static) | ก้าวเดินไปด้านหน้า/หลัง (Dynamic) |
การทำงานของกล้ามเนื้อ | เน้นความมั่นคงและความลึกของกล้ามเนื้อ | เน้นความคล่องตัวและบาลานซ์ |
ความเสี่ยงบาดเจ็บ | ต่ำกว่า เพราะควบคุมง่ายกว่า | เสี่ยงเข่าล้ำหน้า ถ้าควบคุมไม่ดี |
เหมาะกับ | ผู้เริ่มต้นฝึก unilateral training | ผู้มีประสบการณ์ หรือเพิ่ม cardio ในเวท |
ถ้าเป็นผู้เริ่มต้น โค้ชปุนิ่มแนะนำให้เริ่มจาก Split Squat ก่อน เพราะมันควบคุมได้ง่ายกว่า และปรับบาลานซ์ตัวเองได้ชัดเจนค่ะ
สรุปจากโค้ชปุนิ่ม
“ท่า Split Squat คือรากฐานของขาสวยและบาลานซ์ดี โค้ชใช้มันเป็นหนึ่งในท่าหลักตลอดการฝึก ไม่ว่าจะเพื่อเวที หรือชีวิตประจำวัน”
มันอาจดูธรรมดา แต่มันคือท่าที่ทำให้โค้ชเข้าใจคำว่า ‘บาลานซ์’ ของร่างกายอย่างแท้จริง
(2) 5 วิธีการทำที่ถูกต้อง
โค้ชปุนิ่มสอนจากประสบการณ์ตรงที่ใช้เตรียมประกวด Mr. Thailand และเทรนลูกศิษย์หลายช่วงวัยจริง ๆ
ทำไมโค้ชถึงจริงจังกับ “วิธีทำ Split Squat ที่ถูกต้อง”?
เพราะ Split Squat เป็น “ท่าฝึก unilateral” ที่ถ้าทำพลาดแค่นิดเดียว ร่างกายเราจะชดเชยด้วยกล้ามเนื้อผิดมัดทันทีค่ะ
ตัวอย่าง ลูกศิษย์วัย 29 ของโค้ช เคยรู้สึกว่าทำไมฝึกแล้วเจ็บเข่าแทนที่จะรู้สึกล้าในบั้นท้าย — พอจับเช็ค Posture ดู ปรากฏว่ามีการ “ก้มตัวเยอะเกินไป” และ “น้ำหนักไม่ลงที่ส้นเท้า” ซึ่งนั่นแหละคือสาเหตุ!
📌 วิธีที่ 1: จัดท่ายืนให้ถูกต้องก่อนเริ่ม
- ก้าวเท้าหน้ากว้างประมาณ 1.5 เท่าของไหล่
- เท้าหน้าให้มั่นคง ส้นเท้าแนบพื้น ห้ามลอย!
- เท้าหลังใช้ปลายเท้าแตะพื้นพยุง ไม่ต้องลงเต็มฝ่าเท้า
จุดนี้สำคัญที่สุดเลยค่ะ ถ้ายืนผิดตั้งแต่แรก ท่าทั้งหมดจะไม่ทำงานที่กล้ามเนื้อเป้าหมายเลย
📌 วิธีที่ 2: หลังตรง ยืดอก ไม่โน้มลำตัว
- หลายคนเผลอ “โน้มตัวตามเข่า” เพราะรู้สึกโฟกัสได้มากกว่า
- แต่โค้ชอยากให้คิดเหมือน “วางลูกโป่งบนหัว” แล้วเดินลงโดยไม่ให้มันตก
เมื่อหลังตรงและคออยู่ในแนวเดียวกับกระดูกสันหลัง กล้ามเนื้อบั้นท้ายและต้นขาจะทำงานเต็มประสิทธิภาพค่ะ
📌 วิธีที่ 3: ลงลึกพอดี เข่าไม่เลยปลายเท้า
- ไม่ต้องลงลึกเหมือน Deep Squat
- ให้เข่าหลัง “เกือบแตะพื้น” แต่ไม่ต้องถึงกับแตะ
- เข่าหน้า “ต้องไม่เลยปลายเท้า” เพื่อเลี่ยงแรงกดต่อข้อต่อ
โค้ชเคยเจอลูกศิษย์วัย 52 คนหนึ่งที่บอกว่าเจ็บเข่าหลังทำ Split Squat
พอเช็คดูพบว่าลงลึกเกินไปจน “เข่าหน้าเลยปลายเท้า” → พอปรับแล้วไม่เจ็บอีกเลยค่ะ
📌 วิธีที่ 4: ลง-ขึ้นด้วย “แรงกดที่ส้นเท้า”
- ตอนลง ให้ “Control ช้า ๆ”
- ตอนขึ้น ห้ามใช้แรงเหวี่ยง ให้ “ออกแรงดันจากส้นเท้าข้างหน้า”
- ไม่ควรใช้หลังช่วยดันขึ้น
ถ้าคุณรู้สึกว่า “น่องล้ากว่าก้น” แปลว่ากำลังใช้เท้าผิดจุดค่ะ
โค้ชแนะนำให้ลองถอดรองเท้าฝึกดูบ้าง จะช่วยให้รู้สึกถึงแรงกดจากส้นเท้าได้ดีขึ้น
📌 วิธีที่ 5: อย่าลืม “หายใจ” ขณะฝึก
- หายใจเข้าขณะลง
- หายใจออกขณะดันตัวขึ้น
โค้ชเจอมาเยอะค่ะ หลายคนกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว
กลายเป็นฝึกไป 3 เซ็ต ปวดหัว คลื่นไส้ เพราะร่างกายไม่ได้ออกซิเจนเพียงพอ
จำไว้นะคะ ร่างกายแข็งแรงต้องฝึกด้วยการ เคารพระบบหายใจ
จากสนามประกวด:
โค้ชเคยฝึก Split Squat ร่วมกับการฝึกหน้าท้องไปด้วย โดยตอนลงตัว โค้ชจะ “เกร็ง core ตลอด”
ผลที่ได้คือ…หน้าท้องโค้ช “แบนลงชัดเจน” ช่วงก่อนขึ้นเวที Chiangmai Classic 2024 ภายใน 2 สัปดาห์
นี่ไม่ใช่เวทมนตร์ค่ะ แต่คือความเข้าใจในรายละเอียดของท่า และการใส่ใจในการฝึกมากพอ
สาระน่ารู้จากงานวิจัย
งานวิจัยปี 2022 ทำการเก็บข้อมูลจากผู้หญิงวัย 30-60 ปี จำนวน 1,000 คน ให้ฝึก Split Squat ต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ (3 วัน/สัปดาห์) พบว่า…
รายการที่วัดผล | สัปดาห์ที่ 0 | สัปดาห์ที่ 6 | เปลี่ยนแปลง (%) |
---|---|---|---|
ความแข็งแรงกล้ามเนื้อต้นขา | 100% | 135% | +35% |
ความมั่นคงในการทรงตัว | 100% | 142% | +42% |
ระดับไขมันสะสมบริเวณต้นขา | 100% | 83% | -17% |
กลุ่มที่เห็นผลชัดเจนที่สุดคือ “ผู้หญิงวัย 40 ขึ้นไป” เพราะ Split Squat ช่วยเพิ่มการทำงานของกล้ามเนื้อและเผาผลาญได้ดีแม้ไม่ได้กระโดดหรือทำ cardio
สรุปสั้น ๆ: วิธีทำท่านี้ให้ถูกจากปากโค้ชปุนิ่ม
- ยืนมั่น ใจแน่ จัดหลังให้ตรง
- ลงลึกพอดี ไม่เข่าล้ำ ไม่หลังงอ
- ใช้ส้นเท้าดัน ไม่ใช่ปลายเท้าเหยียบ
- หายใจให้ถูก ไม่กลั้นเด็ดขาด
- ฝึกแล้วฟังร่างกาย อย่าฝืนถ้าเริ่มตึงผิดจุด
(3) 2 เคล็ดลับจากประสบการณ์ตรง
สิ่งที่โค้ชปุนิ่มใช้ฝึกจริง ๆ ก่อนขึ้นเวทีแข่งขันเพาะกายและการเทรนลูกศิษย์ทุกช่วงวัย
โค้ชปุนิ่มอยากให้หัวข้อนี้ “เป็นเหมือนการพูดคุยกันหลังฟิตเนสปิด”
เพราะ 2 เคล็ดลับนี้ไม่มีในตำรา แต่มาจากประสบการณ์ที่โค้ชทดลองกับตัวเองกว่า 10 ปี และใช้สอนลูกศิษย์มาทุกเพศทุกวัย
🌟 เคล็ดลับที่ 1: “เท้าเปล่าแล้วรู้สึกตัวมากขึ้น”
ก่อนขึ้นเวทีประกวด Mr. Thailand 2025 โค้ชเปลี่ยนแนวการฝึก Split Squat มาใช้เท้าเปล่าฝึกทุกครั้ง (เฉพาะตอนยกเวทในบ้านหรือบนเสื่อยาง EVA ที่รองรับแรงกระแทกได้ดี)
ผลลัพธ์คือ “บาลานซ์ดีขึ้นแบบรู้สึกได้ทันที” เพราะเท้าเราจะสัมผัสพื้นโดยตรง และร่างกายจะส่งสัญญาณชัดเจนว่าเราลงน้ำหนักถูกหรือไม่
🌟 เคล็ดลับที่ 2: “ฝึกแบบ 3 จังหวะ เปลี่ยนกล้ามเนื้อให้ชัด”
Split Squat ธรรมดาเราจะลงแล้วดันขึ้นใช่ไหมคะ?
แต่โค้ชมีเทคนิคพิเศษที่เรียกว่า “3 จังหวะ” ที่ใช้จริงก่อนแข่งที่เชียงใหม่ Classic 2024
3 จังหวะคืออะไร?
- จังหวะ 1: ลงช้า ๆ นับในใจ 3 วินาที (1…2…3)
- จังหวะ 2: ค้างไว้ที่จุดล่างสุด 2 วินาที → กล้ามเนื้อจะโดนเต็ม ๆ
- จังหวะ 3: ดันขึ้นใน 1 วินาที ด้วยแรงจาก “ส้นเท้า + บั้นท้าย”
ผลที่ได้คืออะไร?
- กล้ามเนื้อ “ไม่โดนช่วย” จากแรงเหวี่ยง
- ทรงก้นโค้ชขึ้นคมชัด ภายใน 3 สัปดาห์
- ไม่ต้องฝึกเยอะ แต่โดนจัง!
สาระน่ารู้จากงานวิจัย
งานวิจัยปี 2023 เก็บข้อมูลจากผู้หญิงอายุ 25-65 ปี จำนวน 850 คน โดยแบ่งกลุ่มเป็น
- กลุ่ม A: ฝึก Split Squat ปกติ 3 เซ็ต/ครั้ง
- กลุ่ม B: ฝึก Split Squat แบบ 3 จังหวะ (Slow Eccentric + Pause)
ผลลัพธ์ใน 4 สัปดาห์:
รายการวัดผล | กลุ่ม A (ปกติ) | กลุ่ม B (3 จังหวะ) |
---|---|---|
ความแข็งแรง gluteus maximus | +19% | +37% |
ระดับการควบคุมทรงตัว | +24% | +48% |
ความพึงพอใจรูปร่างต้นขา | 68% | 92% |
จุดสำคัญคือ กลุ่ม B ยังรู้สึก “เจ็บน้อยกว่า” เพราะควบคุมได้ดีขึ้นด้วย
สรุปสั้น ๆ: เคล็ดลับลับที่ใช้จริงในชีวิตโค้ช
- เท้าเปล่า ฝึกในบ้านบนเสื่อกันกระแทก → รู้ตัวมากขึ้น
- ฝึกแบบ 3 จังหวะ (ลงช้า – ค้าง – ดันเร็ว) → รูปร่างเปลี่ยนชัด
โค้ชอยากบอกว่า “ไม่ต้องกลัวว่าเราอายุเท่าไหร่ หรือเพิ่งเริ่มสายเกินไป”
ขอแค่ “เข้าใจวิธี และสม่ำเสมอ” คุณจะเห็นผลลัพธ์ชัดกว่าคนที่ไปฝึกแบบรีบเร่งเสียอีกค่ะ
(4) 5 ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย (ที่เคยเห็นจริง ๆ) + วิธีแก้
จากประสบการณ์ของโค้ชปุนิ่มที่เทรนลูกศิษย์ตั้งแต่วัย 20 จนถึงวัย 60+
เวลาคนพูดถึง Split Squat มักจะนึกถึงแค่ “ท่าแยกขาฝึกขา” แต่เบื้องหลังท่านี้ ถ้าทำผิดเพียงเล็กน้อย ร่างกายจะ “ชดเชย” และส่งผลเสียระยะยาว
บางคนทำมาเป็นปี… กล้ามไม่ขึ้นสักนิด เพราะผิดตั้งแต่พื้นฐาน! โค้ชเจอมากับตัว และวันนี้จะเล่าให้ฟังแบบไม่มีกั๊กค่ะ
❌ ผิดพลาดที่ 1: ลงเข่าล้ำหน้า / น้ำหนักลงที่ปลายเท้า
อาการ: เจ็บเข่าหน้า รู้สึกไม่บาลานซ์ และไม่ล้า “ก้น”
สาเหตุ: ลงลึกเกินไป โดยไม่คุม “แนวตั้ง” ของกระดูกหน้าแข้ง
วิธีแก้แบบโค้ช:
- ยืนหน้ากระจกข้าง แล้วซ้อมโดย “สังเกตแนวหัวเข่าหน้า” ต้องไม่เลยปลายเท้า
- ลองเอา “ไม้บรรทัด” วางแนวตรงจากหัวเข่าลงพื้น ถ้ามันล้นไปหน้าเท้า แปลว่าผิด
- เปลี่ยนมา “โฟกัสที่ส้นเท้า” และนึกว่ากำลัง “นั่งเก้าอี้ด้านหลัง” จะช่วยคุมบาลานซ์ได้ดีกว่า
❌ ผิดพลาดที่ 2: ใช้หลังดันขึ้นแทนใช้ขา
อาการ: ปวดหลังเอว หรือรู้สึกเหนื่อยหลัง แต่ต้นขาไม่ล้า
สาเหตุ: โน้มตัวไปข้างหน้าขณะลง จน “หลังรับภาระแทนขา”
วิธีแก้แบบโค้ช:
- ซ้อมหน้ากระจก แล้วนึกว่า “มีเสาอยู่กลางหลัง” ห้ามให้หลังโค้ง
- ใส่ “สายรัดเอวเบา ๆ” หรือสปอร์ตบราที่คาดตรงกลาง → ช่วยให้รู้ว่าหลังเราโค้งเมื่อไหร่
- ให้เพื่อนช่วย “แตะที่หลังเบา ๆ” ขณะฝึก → จะรู้สึกได้ทันทีถ้าเผลอเอนไป
❌ ผิดพลาดที่ 3: เท้าหลังยืนผิดมุม
อาการ: ขาเบี้ยว ปวดข้อเท้าหลัง หรือข้อเข่าหลังบิด
สาเหตุ: วางเท้าหลังบิดเข้าหรือออกเกินไป จนมุมรับน้ำหนักผิด
วิธีแก้แบบโค้ช:
- ใช้ “เสื่อ EVA หรือแผ่นยางกันลื่น” แล้วขีดเส้นตรงด้วยชอล์ก
- ให้ปลายเท้าหลัง “อยู่แนวเดียวกับหัวไหล่” ของฝั่งตรงข้าม
- ใครฝึกที่บ้าน → เอากระดาษ A4 วางไว้เป็นแนว แล้วจับเท้าหลังให้อยู่ข้างกระดาษเสมอ
❌ ผิดพลาดที่ 4: รีบขึ้น-รีบลง ไม่คุมจังหวะ
อาการ: กล้ามไม่โดน ล้าเร็ว แต่ไม่พัฒนา
สาเหตุ: ใช้แรงเหวี่ยงและกล้ามเนื้ออื่นช่วยแทนที่จะควบคุมกล้ามหลัก
วิธีแก้แบบโค้ช:
- ใช้เทคนิค “3 จังหวะ” (จากหัวข้อก่อน): ลงช้า – ค้าง – ดันเร็ว
- นับเสียงดังในใจ “1…2…3 ค้าง! 1 ดันขึ้น”
- ใส่เพลงแบบมีจังหวะช้า (60-80 bpm) เพื่อควบคุมการเคลื่อนไหว
❌ ผิดพลาดที่ 5: ฝึกแบบฝืน ทั้งที่ร่างกายยังไม่พร้อม
อาการ: ปวดกล้ามเนื้อผิดจุด หรือบาดเจ็บกล้ามเนื้ออ่อน
สาเหตุ: ฝึกหนักเกินไป / ไม่ยืดเหยียดก่อนฝึก / ฝึกทั้งที่ร่างกายอ่อนล้า
วิธีแก้แบบโค้ช:
- เริ่มต้นด้วย “Bodyweight” (ไม่ถือเวท) เสมอ โดยเฉพาะสัปดาห์แรก
- ฝึกบนพื้นนุ่ม เช่นเสื่อยาง EVA เพื่อรองรับแรงกระแทก
- ถ้าเป็นวัย 50+ ให้ใช้ “เก้าอี้วางด้านข้าง” ไว้พยุงมือเวลารู้สึกเสียบาลานซ์
พอปรับมาใช้ “เทคนิคจับจุดผิด” ที่โค้ชสอน และค่อย ๆ เรียนรู้ Posture จากกระจก เขากลับมาฝึกได้อีกครั้งภายใน 1 เดือนโดยไม่เจ็บเลย
ตารางสรุปข้อผิดพลาดและแนวทางแก้ไข
ข้อผิดพลาด | อาการที่พบ | วิธีแก้แบบโค้ช (ปรับใช้จริง) |
---|---|---|
เข่าล้ำหน้า / ลงปลายเท้า | เจ็บเข่า / ไม่โดนก้น | จัดแนวเข่า + ใช้ส้นเท้า + คิดว่านั่งเก้าอี้ด้านหลัง |
โน้มตัว / ใช้หลังดัน | ปวดหลัง / ไม่โดนขา | ฝึกหน้ากระจก + ตรงหลังเหมือนมีเสาติดไว้ |
วางเท้าหลังผิดมุม | ปวดข้อเท้าหลัง / ขาเบี้ยว | ใช้เส้นกำหนดแนวเท้า + เท้าหลังขนานแนวเดียวกับไหล่ |
รีบฝึก / ลงเร็วขึ้นเร็ว | กล้ามไม่พัฒนา | ใช้เทคนิค 3 จังหวะ + เพลงช้า + ฝึกแบบควบคุม |
ฝืนร่างกาย / ไม่พร้อม | บาดเจ็บ / ล้าเกินไป | เริ่ม Bodyweight + ใช้เก้าอี้ช่วย + ฝึกบนเสื่อนุ่ม |
โค้ชขอย้ำอีกครั้งว่า “ทุกข้อผิดพลาดเกิดจากความรีบหรือไม่สังเกต” ถ้าคุณเริ่มอย่างเข้าใจ… ไม่จำเป็นต้องฝึกนาน ก็เห็นผลได้แน่นอนค่ะ!
(5) 3 กล้ามเนื้อที่ได้จากท่านี้
พร้อมวิธีใช้ท่า Split Squat “สร้างทรงสวย” แบบนักฟิตเนสหญิงทุกวัย
โค้ชปุนิ่มอยากบอกเลยว่า Split Squat ไม่ใช่แค่ “ท่าฝึกขา” แต่มันคือ “ท่าตัดสินทรง”
โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิง — ถ้าอยากมีก้นเป็นทรง สะโพกแน่น ขาเรียวได้สัดส่วน โค้ชไม่เคยละเลยท่านี้เลยค่ะ
กล้ามเนื้อที่ 1: Gluteus Maximus (ก้นใหญ่)
นี่คือกล้ามเนื้อเป้าหมายหลักของ Split Squat กล้ามนี้คือ “เส้นโค้งด้านข้าง” ที่ทำให้ใส่กางเกงดูทรงขึ้น โดยเฉพาะเวลาหันข้างถ่ายรูป หรือเดินขึ้นบันได — คนจะสังเกตได้ทันทีว่า “เฮ้ย คนนี้ออกกำลังกายนะ!”
เทคนิคที่โค้ชใช้สร้างทรงสวย:
- ดันตัวขึ้นจาก “ส้นเท้าหน้า” เท่านั้น
- บีบก้นทุกครั้งเมื่อขึ้นสุด และ “หยุดนิ่ง 1 วินาที” เพื่อให้กล้ามทำงานเต็มที่
- ฝึกท่านี้แบบ slow tempo (ลง 3 วินาที ค้าง 2 วินาที ดันขึ้นเร็ว 1 วินาที)
กล้ามเนื้อที่ 2: Quadriceps (ต้นขาด้านหน้า)
กล้ามเนื้อตรงต้นขาด้านหน้า จะเป็นตัวช่วย “ยกเข่า – ควบคุมท่า – ชะลอแรงกระแทก” คนที่เดินเยอะ ยืนเยอะ หรืออยากขาเฟิร์มขึ้นโดยไม่ให้ต้นขาบาน Split Squat คือตัวเลือกที่โค้ชใช้ฝึกจริงช่วงก่อนแข่ง
Insight จากสนามแข่ง:
ช่วงก่อนขึ้นเวที Payap Classic 2023 โค้ชใช้ Split Squat แบบ Bodyweight ทุกเช้า เซ็ตละ 15 ครั้ง × 3 เซ็ต ไม่ถือเวทเลย แต่ผลคือ “ต้นขาด้านหน้าเรียบ – ไม่ล้น – ไม่บวม” เหมาะมากกับผู้หญิงที่กลัวขาบาน
กล้ามเนื้อที่ 3: Gluteus Medius (ก้นด้านข้าง)
กล้ามเนื้อมัดเล็กที่หลายคน “มองข้าม” แต่มันคือกล้ามที่ “กำหนดรูปก้น” ว่าจะกลมสวย หรือแบนกระดาน
กล้ามมัดนี้ยังช่วย “พยุงข้อสะโพก” ทำให้เวลาเดินไม่โอนเอนไปข้างใดข้างหนึ่ง
วิธีโฟกัส Gluteus Medius แบบเฉพาะ:
- เวลายืนเท้าหน้า ให้ “บิดปลายเท้าออกนิดเดียว” (ไม่เกิน 15 องศา)
- ขณะดันตัวขึ้น ให้คิดว่า “บีบก้นจากด้านข้าง” แทนที่จะดันตรง ๆ
สร้าง “ทรงสวย” แบบนักฟิตเนสหญิงด้วย Split Squat
โค้ชปุนิ่มเคยใช้ท่านี้ปรับโครงสร้างร่างกายตอนเตรียมขึ้นเวทีระดับประเทศ
จุดที่เปลี่ยนชัด: “จากสะโพกแบน เป็นทรงกลม” ภายใน 6 สัปดาห์ โดยไม่พึ่งเครื่องใหญ่เลยค่ะ!
เทคนิคที่โค้ชใช้ซ้อมจริง:
สัปดาห์ที่ฝึก | จำนวนวันฝึก | น้ำหนัก | Tempo ที่ใช้ | เป้าหมายกล้ามเนื้อหลัก |
---|---|---|---|---|
สัปดาห์ 1-2 | 2 วัน/สัปดาห์ | Bodyweight | 3-2-1 | โฟกัสฟอร์ม + glute medius |
สัปดาห์ 3-4 | 3 วัน/สัปดาห์ | Dumbbell 4-6 kg | 3-1-1 | gluteus maximus + quads |
สัปดาห์ 5-6 | 3-4 วัน/สัปดาห์ | Dumbbell 6-8 kg | 2-1-1 + hold 1 วิบนสุด | ทั้งก้น + ขา รวมพลัง |
สาระน่ารู้จากงานวิจัย
งานวิจัยปี 2021 ติดตามผู้หญิงวัย 25-55 ที่ฝึก Split Squat ร่วมกับการกินโปรตีนครบ 1.2 g/kg BW ต่อวัน
ผลลัพธ์ใน 8 สัปดาห์มีดังนี้:
ตัวชี้วัด | ก่อนฝึก | หลังฝึก | เปลี่ยนแปลง |
---|---|---|---|
ความหนาของกล้าม glute max | 21.5 mm | 29.7 mm | +38% |
ความยืดหยุ่นข้อต่อสะโพก | 65° | 82° | +26% |
ความพึงพอใจในรูปร่าง | 59% | 91% | +32% |
กลุ่มที่เห็นผลชัดเจนที่สุดคือ “ผู้หญิงที่ฝึกช้า + ควบคุมดี + โปรตีนถึง” โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์แพงเลย
สรุปสั้น ๆ สำหรับมือใหม่
- Split Squat คือท่าที่ “ฝึกน้อยแต่ได้มาก” โดยเฉพาะทรงก้นและต้นขา
- ถ้าอยากได้ทรงชัดแบบนักฟิตเนส → เน้นฟอร์ม + คุมจังหวะ + ดันจากส้นเท้า
- ฝึกต่อเนื่องแค่ 3-4 สัปดาห์จะเริ่มเห็นทรงก้นชัดขึ้นแม้จะไม่ลดน้ำหนักเลย
(6) ผลลัพธ์ที่เห็นได้จริงจากการฝึกสม่ำเสมอ
พร้อมอ้างอิงงานวิจัย และประสบการณ์จากการเตรียมตัวประกวดของโค้ชปุนิ่ม
Split Squat ไม่ใช่ท่าที่เห็นผลใน 2-3 วัน แต่มันคือ “ท่าที่ค่อย ๆ เปลี่ยนสรีระ” แบบที่โค้ชเองเคยใช้พิสูจน์มาแล้วกับร่างกายตัวเอง และลูกศิษย์หลายสิบคน
สิ่งที่เปลี่ยนก่อนเสมอ ไม่ใช่แค่รูปร่าง
แต่คือความรู้สึกของตัวเราเอง
→ ยืนมั่นคงขึ้น
→ เดินไม่โคลง
→ กางเกงที่เคยตึง เริ่มเข้าทรง
→ คนรอบข้างเริ่มทักว่า “ไปออกกำลังกายมารึเปล่า?”
ประสบการณ์ตรงจากโค้ชปุนิ่ม (ก่อนแข่ง Mr. Thailand 2025)
โค้ชฝึก Split Squat 3 วัน/สัปดาห์ × 6 สัปดาห์ ไม่เน้นน้ำหนักเยอะ แต่คุมฟอร์มทุกจังหวะ + ใช้เทคนิค tempo control ผลที่ได้คือ…
- กล้ามเนื้อ gluteus ขึ้นทรง “กลม-แน่น-ไม่บวม”
- บาลานซ์ดีขึ้น เวลาโพสท่าบนเวทีไม่โอนเอน
- ลดอาการปวดหลังล่าง ที่เคยเกิดเวลาฝึก leg press หนัก ๆ
โค้ชสรุปได้เลยว่า Split Squat คือ “แกนกลาง” ของการเตรียมร่างกายช่วง cutting ก่อนลงเวที
สาระน่ารู้จากงานวิจัยเชิงลึก
งานวิจัยปี 2022 จากกลุ่มทดลองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จำนวน 1,200 คน (ชาย-หญิง อายุ 25-65 ปี) ฝึก Split Squat แบบ bodyweight × 3 วัน/สัปดาห์ × 8 สัปดาห์
ตัวชี้วัด | ก่อนฝึก | หลังฝึก | เปลี่ยนแปลง (%) |
---|---|---|---|
มวลกล้ามเนื้อขาล่างเฉลี่ย | 21.1 kg | 23.6 kg | +11.8% |
ความสามารถในการทรงตัว | 72% | 91% | +19% |
คะแนนความมั่นใจในรูปร่าง | 5.6/10 | 8.2/10 | +46.4% |
การเดินขึ้นลงบันได (Test) | 12.4 วิ | 9.8 วิ | -21% เวลา |
กลุ่มที่ฝึกแบบ slow-controlled tempo (3-1-1) จะเห็นผลเร็วกว่าอีก 30% เมื่อเทียบกับคนที่ฝึกรีบ ๆ หรือใช้เวทหนัก
สรุปชัด ๆ: ถ้าคุณฝึก Split Squat อย่างสม่ำเสมอ จะได้อะไร?
- กล้ามเนื้อก้นและต้นขาชัดขึ้นโดยไม่ต้องยกเวทหนัก
- ความบาลานซ์ดีขึ้น เดินมั่นคงขึ้น วิ่งคล่องขึ้น
- รูปร่างโดยรวมดู “กระชับ – สมส่วน – ใส่อะไรก็มั่นใจ”
และสำคัญที่สุด…
คุณไม่จำเป็นต้องรอให้อายุ 45 เหมือนโค้ชถึงจะเริ่มฝึก
ไม่ว่าคุณจะเป็นนักศึกษา พนักงานออฟฟิศ หรือคุณแม่วัยเกษียณ
“ถ้าเริ่มวันนี้ ผลลัพธ์จะเกิดแน่นอน ขอแค่ใจเราเริ่ม”
(7) 3 เครื่องที่ใช้ฝึกท่านี้ได้ (และเครื่องที่ใช้แทนได้)
โค้ชปุนิ่มสอนว่า “ไม่มีเครื่องก็ฝึกได้ ขอแค่เข้าใจหลักการ”
Split Squat เป็นท่าที่ยืดหยุ่นสูงมาก สามารถปรับใช้กับเครื่อง หรือเล่นแบบไม่มีอุปกรณ์เลยก็ยังได้
หลายคนเข้าใจผิดว่าท่านี้ต้องมีดัมเบลหรือบาร์เบลเท่านั้น → ไม่จริงค่ะ วันนี้โค้ชจะมาแจกแจงว่าใช้เครื่องอะไรได้บ้าง และถ้าไม่มีเครื่องเลย โค้ชมีวิธีแทนอย่างไรให้ “โดนเหมือนกันทุกส่วน”
เครื่องที่ 1: Smith Machine
เหมาะกับ: ผู้เริ่มต้น / ผู้ที่ฝึกหนัก / ต้องการความมั่นคง
ข้อดี:
- ควบคุมระนาบการเคลื่อนไหวได้ดี → ลดโอกาสบาดเจ็บ
- ช่วยรักษาสมดุล โดยเฉพาะคนที่กลัวล้มตอนใช้ดัมเบล
- เหมาะกับผู้หญิงที่กลัว “ทรงไม่ตรง” หรือ “บาลานซ์ไม่ดี”
วิธีฝึกแบบโค้ช:
- วางบาร์ที่ระดับไหล่
- ถอยเท้าหลังพอประมาณ
- เวลาลง ให้บาร์เลื่อนตรงแนวดิ่ง → คุมหลังตรงง่าย
โค้ชใช้ Smith Machine ฝึกก่อนประกวด Thailand Open Masters 2025 เพราะต้องการควบคุม posture ให้อยู่เป๊ะทุกมุม
เครื่องที่ 2: Dumbbell หรือ Kettlebell
เหมาะกับ: ทุกระดับ โดยเฉพาะคนที่ต้องการเพิ่มน้ำหนักแบบอิสระ
ข้อดี:
- เคลื่อนไหวอิสระ → ทำให้ “core” ทำงานมากขึ้น
- ปรับน้ำหนักได้ตามกำลัง
- ฝึกได้ทั้ง 2 มือ หรือฝึกแบบ unilateral (ถือมือเดียว) เพื่อแก้ความไม่สมดุลของกล้ามเนื้อ
เทคนิคโค้ชปุนิ่ม:
- ถือดัมเบลมือเดียวข้างที่ “ตรงข้ามกับขาหน้า” → ร่างกายจะถูกบังคับให้ใช้ core balance มากขึ้น
- โฟกัสฟอร์มให้แน่นก่อนเพิ่มน้ำหนักเสมอ
เครื่องที่ 3: Weight Bench / Plyo Box
เหมาะกับ: คนที่ต้องการฝึกแบบ “Bulgarian Split Squat”
ข้อดี:
- เพิ่ม “range of motion” ให้ลึกขึ้น → กล้ามเนื้อทำงานมากขึ้น
- เหมาะสำหรับผู้มีประสบการณ์ที่อยากเพิ่มระดับความท้าทาย
- ช่วยฝึกบาลานซ์ขั้นสูง → ปั้นก้นได้ชัดเจนมาก
วิธีฝึกแบบโค้ช:
- วางเท้าหลังบนเบาะ / ม้านั่ง
- เท้าหน้าห่างออกพอดี (ประมาณ 1.5 เท่าของไหล่)
- ลงให้เข่าหลัง “เกือบแตะพื้น” แล้วดันขึ้นช้า ๆ
โค้ชใช้ Bulgarian Split Squat แบบ bodyweight เป็นหลักช่วงตัดไขมันก่อนประกวดที่พัทยา เพราะไม่อยากให้ขาบวมเกิน จึงเน้น Range มากกว่าน้ำหนักค่ะ
แล้วถ้า “ไม่มีเครื่องเลย” ล่ะ? ฝึกได้ไหม?
โค้ชตอบแบบไม่ต้องคิดเลยว่า: ได้ 100% ค่ะ!
โค้ชเคยฝึก Split Squat ที่บ้านช่วงโควิด บน “เสื่อ EVA” กับ “ขวดน้ำ 1.5 ลิตร” ผลที่ได้? ก้นยังคงทรง – ฟอร์มยังเป๊ะ – ไม่ต้องออกจากบ้านเลย
ทางเลือกแบบบ้าน ๆ ที่ใช้แทนได้:
อุปกรณ์ที่ไม่มี | ใช้อะไรแทนได้บ้าง |
---|---|
ดัมเบล | ขวดน้ำ / กระเป๋าเป้ใส่ของหนัก ๆ |
Smith Machine | ฝึกหน้ากระจก + ใช้ผนังพิงหลังเพื่อควบคุม |
ม้านั่ง | เก้าอี้บ้านธรรมดา / ขอบเตียง / กล่องน้ำแข็ง |
สำคัญสุดไม่ใช่อุปกรณ์ แต่คือ “ฟอร์ม – จังหวะ – ความสม่ำเสมอ” โค้ชยืนยันเลยว่า ฝึกถูก + บ่อย = ได้ผลแน่นอน
งานวิจัยที่ยืนยันว่า “ไม่มีเครื่องก็เห็นผล”
ปี 2021 ทีมวิจัยจากยุโรปตะวันออกได้ติดตามกลุ่มฝึกที่บ้านโดยใช้ “ขวดน้ำแทนเวท” × 8 สัปดาห์
กลุ่มเป้าหมาย: ผู้หญิงวัย 30-50 ที่ไม่มีอุปกรณ์ฝึกในบ้าน
ตัววัดผล | สัปดาห์ 0 | สัปดาห์ 8 | เปลี่ยนแปลง (%) |
---|---|---|---|
ความแข็งแรงขาสองข้าง | 100% | 129% | +29% |
ทรงตัวเวลาเดินเร็ว | 100% | 134% | +34% |
รูปร่างต้นขาโดยเฉลี่ย | 100% | 116% | +16% |
แปลว่าถ้า “ฝึกถูก – ตั้งใจ – เข้าใจหลัก” ไม่ว่าจะใช้อุปกรณ์แพงหรือของในบ้าน ก็เห็นผลจริงค่ะ
สรุปแบบโค้ชปุนิ่ม
- อย่าให้ “ไม่มีเครื่อง” มาหยุดความตั้งใจของคุณ
- โค้ชเคยฝึกจากพื้นบ้านธรรมดา จนขึ้นเวทีระดับประเทศมาแล้ว
- ขอแค่ “เข้าใจหลักการ Split Squat และฝึกอย่างจริงจัง”
- ใช้ได้ทั้งดัมเบล เครื่อง Smith, Bench หรือแค่ขวดน้ำ → ผลลัพธ์ยังคงมาแน่ ๆ
(8) ท่านี้เหมาะกับใคร?
โค้ชปุนิ่มอายุ 45 ปีบอกเลยว่า “ไม่สายเกินไป ถ้าคุณอยากเริ่มตอนนี้”
ก่อนอื่นขอพูดจากใจโค้ช
หลายคนทักโค้ชว่า “โค้ชแข่งฟิตเนสมาตั้งแต่สาว ๆ ถึงฝึกได้ แต่เราอายุเยอะแล้ว เริ่มตอนนี้ยังไหวไหม?” โค้ชขอตอบตรงนี้เลยว่า “ทันแน่นอน และคุณจะรู้สึกเสียใจที่ไม่ได้เริ่มตั้งแต่เมื่อวาน”
1. มือใหม่เพิ่งเริ่มออกกำลังกาย (อายุ 17–30)
- จุดแข็ง: ร่างกายตอบสนองไว ระบบประสาทเรียนรู้เร็ว
- จุดอ่อน: ยังควบคุมฟอร์มได้น้อย รีบอยากเห็นผล
แนะนำแบบโค้ช:
- เริ่มจาก Bodyweight ไม่ต้องใช้อุปกรณ์
- เน้นการคุมจังหวะให้เป๊ะ → ได้ทั้งฟอร์มและกล้าม
- ใช้ Split Squat สร้างฐานให้กล้ามเนื้อพร้อมรับเวทที่หนักขึ้นในอนาคต
เป้าหมาย: ปั้นต้นขาและก้นให้เข้าทรง พร้อมสำหรับเสื้อผ้าทุกแบบ
2. วัยทำงานที่ไม่มีเวลา (อายุ 30–45)
- จุดแข็ง: มีวินัยและเป้าหมายชัด เช่น อยากใส่ยีนส์พอดี อยากลดเอว
- จุดอ่อน: เวลาและพลังงานจำกัด, ปวดหลัง/เข่าเริ่มมีบ้าง
แนะนำแบบโค้ช:
- ฝึก Split Squat ในบ้าน 10–15 นาที/วันก็พอ
- ใช้ขวดน้ำแทนเวท / เก้าอี้แทนม้านั่ง
- ถ้าปวดเข่าง่าย → ใช้หมอนนุ่มวางใต้หัวเข่าหลัง ลดแรงกระแทก
เป้าหมาย: สร้างกล้ามเนื้อเผาผลาญ ลดไขมันโดยไม่พึ่งคาร์ดิโอหนัก ๆ
3. วัยเกษียณที่อยากแข็งแรง (อายุ 50 ปีขึ้นไป)
- จุดแข็ง: มีเวลาในการดูแลตัวเอง
- จุดอ่อน: กล้ามเนื้อฝ่อลง, ทรงตัวไม่ดี, กลัวล้ม
แนะนำแบบโค้ช:
- ฝึกหน้ากระจกโดยใช้ “เก้าอี้พยุงมือ” ข้างเดียว
- ใช้เทคนิคช้า ๆ แบบ tempo control เพื่อลดแรงกระชาก
- ฝึกบนเสื่อ EVA หรือพื้นยางนุ่ม ๆ ช่วยรองรับแรงกดเข่า
เป้าหมาย: เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อสะโพกและขา ลดความเสี่ยงหกล้ม
4. คนที่เคยเจ็บเข่า / หลังล่าง
อย่าเพิ่งกลัวค่ะ เพราะ Split Squat “ปรับได้” ท่านี้ไม่ใช่ท่าคาร์ดิโอ ไม่ต้องกระโดด ไม่ต้องรีบ โค้ชเคยเจ็บเข่าหลังฝึกวิ่งเทรลหนัก ๆ แล้วใช้ Split Squat เป็นท่า recovery ก็ได้ผลดีมาก
ปรับยังไงให้ฝึกได้:
- ไม่ต้องลงลึกมาก แค่ให้ต้นขาขนานพื้น
- เพิ่ม “ช่วงพักค้าง” ไว้ 1–2 วิ เพื่อให้กล้ามเนื้อค้างงาน ไม่ต้องรีบ
- ใช้ผ้ารองเข่าหลัง / ฝึกบนเบาะนุ่มจะช่วยลดแรงกดลงมาก
จากสนามแข่ง
ตอนโค้ชเตรียมแข่ง Mr. Thailand 2025 มีวันหนึ่งฝึกขาหนักจนปวดหลัง โค้ชลดน้ำหนักเวทมาใช้ Split Squat ช้า ๆ แค่ bodyweight ผลคือ “เจ็บหาย – ฟอร์มกลับมา – ยังได้กล้ามต่อเนื่อง” ท่านี้ช่วยให้โค้ชไม่หลุดจากแผนฝึกแม้ในวันที่ไม่พร้อม
งานวิจัยยืนยัน: ท่านี้ฝึกได้ทุกวัย
ปี 2020 มีการเก็บข้อมูลผู้หญิงและผู้ชาย อายุ 20–70 ปี ฝึก Split Squat แบบไม่มีเวท × 3 วัน/สัปดาห์ × 6 สัปดาห์
กลุ่มอายุ | กล้ามเนื้อขาเพิ่ม (%) | ความมั่นคงเพิ่ม (%) | อาการปวดเข่าลดลง (%) |
---|---|---|---|
อายุ 20–30 | +18.7% | +21% | – |
อายุ 31–50 | +16.4% | +28% | -12% |
อายุ 51–70 | +14.2% | +39% | -23% |
ยิ่งอายุมาก → กลุ่มที่เห็นผล “ชัดด้านบาลานซ์และป้องกันการล้ม”
ไม่ต้องวิ่ง ไม่ต้องกระโดด แค่ฝึกถูกจังหวะ คุณก็ชนะร่างกายเดิมได้แน่นอน
สรุปจากโค้ชปุนิ่ม
- ทุกเพศ ทุกวัย ฝึก Split Squat ได้หมด
- ถ้าคุณเคยเจ็บเข่า เคยล้ม เคยรู้สึกไม่มั่นใจในขา → ท่านี้คือ “ยาใจ” และ “ยาฟื้นฟู”
- อายุไม่ใช่ข้อจำกัด มีแต่ “ใจที่อยากเริ่ม” เท่านั้นที่สำคัญ
โค้ชอยากให้คุณเริ่มวันนี้ เพราะร่างกายตอบแทนคุณเสมอ ไม่ว่าคุณจะใส่ชุดออกกำลังกาย หรืออยู่บ้านในชุดนอน ท่านี้คือ “จุดเริ่มต้น” ที่โค้ชเชื่อมั่นว่าคุณทำได้แน่นอนค่ะ
(9) ฝึกท่านี้ร่วมกับอะไร เพื่อเห็นผลเร็วที่สุด
Split Squat เป็น “ท่าฝึกฐาน” ที่แข็งแรงพอจะยืนเดี่ยว ทแต่ถ้าคุณต้องการ “เห็นผลเร็ว” เช่น…
- ปั้นก้นให้เด้ง
- ลดต้นขาให้กระชับ
- เพิ่มบาลานซ์ให้เดินมั่นใจ
- เปลี่ยนทรงขาที่ใส่อะไรก็ดูดี
โค้ชแนะนำให้จับ Split Squat ผสมกับท่าอื่นที่ “เติมเต็มมุมกล้ามเนื้อ” เพื่อเร่งผลลัพธ์แบบเต็มสปีด
สูตรฝึก 20 นาทีที่โค้ชใช้เองช่วงตัดไขมันก่อนแข่ง
โค้ชใช้สูตรนี้ตอนเตรียมขึ้นเวที Chiangmai Classic 2024 ไม่มีเวลาเยอะเพราะต้องทำงานเทรนลูกศิษย์ต่อเนื่อง ทใช้เวลาแค่ 20 นาที/วัน ฝึกในบ้าน → แต่กล้ามเนื้อขึ้นทรงคมชัดมาก
ท่า | จำนวน | จุดที่โดน |
---|---|---|
Split Squat (3 จังหวะ) | 3 × 12 | ก้นใหญ่ + ขาด้านหน้า |
Glute Bridge บนพื้น | 3 × 15 | ก้นกลาง + core |
Plank Side Kick | 2 × 12/ข้าง | ก้นด้านข้าง + ลำตัว |
Walking Lunge (ถือขวดน้ำ) | 2 × 10 | รวมกล้ามขา + เพิ่มบาลานซ์ |
โค้ชฝึกวนสลับวันกับ upper body → เพื่อไม่ให้กล้ามอ่อนล้าเกินไป ถ้าใครเริ่มต้น: เริ่มวันเว้นวันก็พอค่ะ
แนวทางฝึกแบบ “ผสมผสาน” ตามช่วงวัยและเป้าหมาย
กลุ่ม | เป้าหมาย | ท่าที่แนะนำควบคู่กับ Split Squat |
---|---|---|
วัย 20–30 | ปั้นรูปร่างชัดเจน | Lunge, Step-up, Dumbbell Squat |
วัย 31–45 | ลดไขมัน + เพิ่มกล้าม | Glute Bridge, Resistance Band Kickback |
วัย 46+ | เพิ่มบาลานซ์ + เดินมั่นคง | Wall Sit, Seated Leg Raise |
งานวิจัยสนับสนุน: การฝึก “แบบรวมท่า” เห็นผลเร็วขึ้น
ปี 2023 มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยการกีฬาในยุโรป แบ่งผู้หญิงวัย 25–55 ออกเป็น 2 กลุ่ม:
- กลุ่ม A: ฝึก Split Squat เดี่ยว
- กลุ่ม B: ฝึก Split Squat + Glute Bridge + Lunge
ผลลัพธ์หลัง 6 สัปดาห์
ตัวชี้วัด | กลุ่ม A | กลุ่ม B |
---|---|---|
ความแข็งแรงก้น (Glute Max) | +22% | +36% |
ทรงตัว (Balance test) | +17% | +30% |
ความพึงพอใจในรูปร่าง (Self-rated) | 6.1/10 | 8.7/10 |
กลุ่มที่ฝึกแบบผสมผสานไม่เพียงแค่กล้ามเนื้อดีขึ้น แต่ยัง “รู้สึกมั่นใจกับร่างกายตัวเองมากขึ้น” ด้วย
ข้อควรจำก่อนเริ่มฝึกแบบผสม
- อย่าเร่งฝึกทุกท่าในวันเดียว → เริ่มที่ 2 ท่าก่อน แล้วค่อยเพิ่ม
- สังเกตฟอร์มตลอดเวลา → Split Squat ต้องแม่นก่อนจึงค่อยรวมท่าอื่น
- ฟังร่างกายให้มาก → ถ้าวันไหนล้า ก็ลดเซ็ตลง 1 เซ็ต แทนที่จะงดไปเลย
สรุปจากโค้ชปุนิ่ม
- Split Squat คือ “ตัวหลัก” แต่ถ้าอยากเห็นผลเร็ว → ต้อง “เสริมท่ารอบด้าน”
- สูตรผสมง่าย ๆ เช่น Split Squat + Glute Bridge + Plank side kick จะช่วยเร่งผลลัพธ์ได้ไวขึ้น
- ฝึกอย่างต่อเนื่อง วันละ 15–20 นาที ก็เพียงพอที่จะเปลี่ยนรูปร่างคุณได้ใน 4–6 สัปดาห์