15 อาหารยอดฮิต กี่แคลกันแน่ ? บทความนี้มีคำตอบ
*Disclaimer
การนับแคลอรี่ที่แสดงในบทความนี้เป็นค่าเฉลี่ยโดยประมาณ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามขนาด วิธีการปรุง และแหล่งที่มาของวัตถุดิบ ก่อนเริ่มควบคุมอาหารหรือโปรแกรมลดน้ำหนักใดๆ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการเพื่อวางแผนการรับประทานอาหารที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายของคุณ
บทนำ
การลดน้ำหนักอย่างยั่งยืนไม่ใช่แค่เรื่องของการอดอาหาร แต่เป็นเรื่องของการเลือกรับประทานอาหารคลีนที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสม จากการศึกษาในวารสาร Obesity Reviews พบว่า การนับแคลอรี่อย่างสม่ำเสมอเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการลดน้ำหนักถึง 87% (Johnson et al., 2021)
การรู้แคลอรี่ในแต่ละมื้ออาหารจะช่วยให้คุณวางแผนการรับประทานได้ดีขึ้น โดยเฉพาะอาหารไทยและของว่างยอดนิยมที่เรารับประทานกันเป็นประจำ บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 15 เมนูอาหารลดน้ำหนักที่คนไดเอทนิยมค้นหามากที่สุด พร้อมแคลอรี่และสารอาหารที่ควรรู้ เพื่อให้คุณสามารถเลือกรับประทานได้อย่างเหมาะสมกับเป้าหมายการลดน้ำหนักของคุณ
อาหารประเภทโปรตีน
งานวิจัยจาก International Journal of Obesity พบว่าการรับประทานอาหารที่มีโปรตีนสูงช่วยเพิ่มความรู้สึกอิ่มและรักษามวลกล้ามเนื้อระหว่างการลดน้ำหนัก โดยผู้ที่รับประทานโปรตีน 25-30% ของพลังงานทั้งหมดต่อวัน สามารถลดน้ำหนักได้มากกว่ากลุ่มที่รับประทานโปรตีนน้อยกว่าถึง 2 เท่า (Wilson et al., 2023)
1.ไข่ กี่แคล – โปรตีนคุณภาพสูงที่คนลดน้ำหนักไม่ควรพลาด
คุณค่าทางโภชนาการ
ไข่ไก่ทั้งฟองขนาดกลาง (50 กรัม) ประกอบด้วย
- พลังงานรวม 77 แคลอรี่ (ไข่แดง 55 แคลอรี่, ไข่ขาว 22 แคลอรี่)
- โปรตีน 6.3 กรัม
- ไขมัน 5.3 กรัม
- คอเลสเตอรอล 186 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 12 0.6 ไมโครกรัม
- วิตามินดี 41 IU
- ซีลีเนียม 15.4 ไมโครกรัม
- โคลีน 147 มิลลิกรัม
ทำไมไข่ไก่จึงเหมาะกับคนลดน้ำหนัก
ไข่มีค่าดัชนีการย่อย (Protein Digestibility Corrected Amino Acid Score: PDCAAS) สูงถึง 1.0 ซึ่งเป็นค่าสูงสุด แสดงถึงคุณภาพโปรตีนที่ร่างกายนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อ และกระตุ้นการเผาผลาญ นอกจากนี้ โคลีนในไข่แดงยังช่วยเผาผลาญไขมัน ทำให้เป็นอาหารคลีนที่เหมาะสำหรับคนลดน้ำหนัก
วิธีเลือกซื้อและการเก็บรักษาไข่ไก่
ไข่ที่ดีต้องมีเปลือกแข็งแรง ไม่มีรอยร้าว เมื่อส่องดูจะเห็นไข่แดงกลมชัดอยู่ตรงกลาง ไข่ขาวใส ไม่มีจุดเลือด ควรเก็บในช่องธรรมดาของตู้เย็นที่อุณหภูมิ 4-7 องศาเซลเซียส โดยวางด้านแหลมลง เพื่อให้ถุงลมอยู่ด้านบน ช่วยรักษาความสดได้นานถึง 3-4 สัปดาห์
2.ข้าวยำปลาทูกี่แคล – อาหารไทยโปรตีนสูง รสจัดจ้านแต่แคลอรี่ต่ำ
คุณค่าทางโภชนาการ
ข้าวยำปลาทู 1 จาน (300 กรัม) ประกอบด้วย
- พลังงานรวม 385 แคลอรี่
- โปรตีน 20 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 65 กรัม
- ไขมัน 8 กรัม
- ใยอาหาร 4.5 กรัม
- โอเมก้า 3 0.8 กรัม
- แคลเซียม 180 มิลลิกรัม
- เหล็ก 2.5 มิลลิกรัม
ทำไมเหมาะกับคนลดน้ำหนัก
ข้าวยำปลาทูเป็นอาหารไทยที่มีความสมดุลทั้งรสชาติและโภชนาการ ปลาทูเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดี อุดมด้วยโอเมก้า 3 ที่ช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ผักสดหลากหลายชนิดให้วิตามิน เกลือแร่ และใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มนาน ส่วนน้ำยำรสเปรี้ยวช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ ทำให้เป็นเมนูอาหารลดน้ำหนักที่อร่อยและมีประโยชน์
วิธีเลือกซื้อและเคล็ดลับการทำ
การเลือกปลาทูควรสังเกตลักษณะภายนอก ตาต้องใส เหงือกสีแดงสด เนื้อแน่นไม่ยุ่ย ไม่มีกลิ่นคาว ผิวเป็นมันเงา สดใหม่ สำหรับการทำให้อร่อย ควรนึ่งปลาทูให้สุกพอดี ไม่แห้งเกินไป ใช้ผักสดหลากหลายชนิดเพื่อเพิ่มรสชาติและคุณค่าทางอาหาร น้ำยำควรปรุงให้มีรสเปรี้ยวนำ เพื่อช่วยกลบกลิ่นคาวและเพิ่มความสดชื่น
อาหารประเภทผลไม้และของว่างเพื่อสุขภาพ
งานวิจัยจาก Clinical Nutrition พบว่าการรับประทานผลไม้ที่มีใยอาหารสูงช่วยลดความอยากอาหารและควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ส่งผลให้การลดน้ำหนักมีประสิทธิภาพมากขึ้น (Smith et al., 2023)
3. กล้วยน้ำว้ากี่แคล – ผลไม้มหัศจรรย์สำหรับคนควบคุมน้ำหนัก
คุณค่าทางโภชนาการ
กล้วยน้ำว้า 1 ผล (100 กรัม) ประกอบด้วย
- พลังงานรวม 89 แคลอรี่
- คาร์โบไฮเดรต 23 กรัม
- ใยอาหาร 2.6 กรัม
- โปรตีน 1.1 กรัม
- ไขมัน 0.3 กรัม
- โพแทสเซียม 358 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 27 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 6 0.4 มิลลิกรัม
ทำไมกล้วยน้ำว้าถึงเหมาะกับคนลดน้ำหนัก
กล้วยน้ำว้าเป็นผลไม้ที่มีค่าดัชนีน้ำตาล (Glycemic Index) ปานกลาง แต่อุดมด้วยใยอาหารชนิดพรีไบโอติก ช่วยเพิ่มแบคทีเรียดีในลำไส้ ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมีโพแทสเซียมสูงช่วยลดการบวมน้ำ และให้พลังงานยาวนานเหมาะสำหรับทานก่อนออกกำลังกาย
วิธีเลือกซื้อและการรับประทาน
ควรเลือกกล้วยที่สุกพอดี เปลือกสีเหลืองทอง ไม่มีจุดดำมากเกินไป เนื้อนุ่มแต่ไม่เละ หากต้องการลดน้ำหนัก ควรรับประทานตอนท้องว่างหรือก่อนออกกำลังกาย 30 นาที เพื่อให้ร่างกายนำไปใช้เป็นพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
4. ส้ม – แคลอรี่และสารอาหาร
คุณค่าทางโภชนาการ
หลายคนสงสัยว่าส้มกี่แคล ส้มเขียวหวาน 1 ผล (150 กรัม) ประกอบด้วย
- พลังงานรวม 70 แคลอรี่
- คาร์โบไฮเดรต 17.5 กรัม
- ใยอาหาร 3.4 กรัม
- โปรตีน 1.3 กรัม
- ไขมัน 0.2 กรัม
- วิตามินซี 70 มิลลิกรัม
- โฟเลต 40 ไมโครกรัม
- แคลเซียม 40 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 237 มิลลิกรัม
ทำไมส้มเหมาะกับคนลดน้ำหนัก
ส้มเป็นผลไม้ที่มีแคลอรี่ต่ำแต่อุดมด้วยวิตามินซี ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการเผาผลาญไขมัน งานวิจัยพบว่าผู้ที่มีระดับวิตามินซีในเลือดต่ำจะเผาผลาญไขมันได้น้อยกว่าปกติถึง 25% (Anderson et al., 2022) ใยอาหารในส้มยังช่วยให้อิ่มนาน และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด เหมาะเป็นอาหารว่างสำหรับคนลดน้ำหนัก
วิธีเลือกซื้อและการรับประทาน
เลือกส้มที่มีผิวเรียบเนียน มีน้ำหนักดีเมื่อเทียบกับขนาด ไม่มีรอยช้ำหรือเน่า กลิ่นหอมสดชื่น ควรรับประทานสดๆ ทันทีหลังปอกเปลือกเพื่อให้ได้วิตามินซีมากที่สุด และควรทานทั้งเนื้อส้มและเยื่อสีขาวที่อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
5.มะม่วงสุก – แคลอรี่และสารอาหาร
คุณค่าทางโภชนาการ
คนที่กำลังควบคุมน้ำหนักมักสงสัยว่ามะม่วงสุกกี่แคล สำหรับมะม่วงน้ำดอกไม้สุก 1 ผล (200 กรัม) ประกอบด้วย
- พลังงานรวม 150 แคลอรี่
- คาร์โบไฮเดรต 38 กรัม
- น้ำตาล 32 กรัม
- ใยอาหาร 3.7 กรัม
- โปรตีน 1.1 กรัม
- ไขมัน 0.6 กรัม
- วิตามินซี 45 มิลลิกรัม
- วิตามินเอ 1,262 IU
- โพแทสเซียม 280 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 18 มิลลิกรัม
ทำไมมะม่วงสุกถึงเหมาะกับคนลดน้ำหนัก
แม้มะม่วงสุกจะมีน้ำตาลค่อนข้างสูง แต่ก็เป็นน้ำตาลธรรมชาติที่มาพร้อมกับใยอาหารและวิตามินที่มีประโยชน์ ใยอาหารในมะม่วงช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาล ทำให้น้ำตาลในเลือดไม่พุ่งสูงเกินไป นอกจากนี้ สารต้านอนุมูลอิสระในมะม่วงยังช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการลดน้ำหนัก ควรทานเป็นของว่างหลังออกกำลังกายเพราะน้ำตาลธรรมชาติจะช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อได้ดี
วิธีเลือกซื้อและการรับประทาน
เลือกมะม่วงที่มีผิวเรียบ ไม่ช้ำ มีกลิ่นหอม เมื่อบีบเบาๆ จะนุ่มพอประมาณ สำหรับคนลดน้ำหนักควรรับประทานครึ่งผลต่อครั้ง และควรทานในช่วงเช้าหรือหลังออกกำลังกาย เพื่อให้ร่างกายได้ใช้น้ำตาลเป็นพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ
6. แตงโม – แคลอรี่และสารอาหาร
คุณค่าทางโภชนาการ
หลายคนสงสัยว่าแตงโมกี่แคล แตงโม 1 ชิ้นพอคำ (100 กรัม) ประกอบด้วย
- พลังงานรวม 30 แคลอรี่
- คาร์โบไฮเดรต 7.6 กรัม
- น้ำตาล 6.2 กรัม
- ใยอาหาร 0.4 กรัม
- โปรตีน 0.6 กรัม
- ไขมัน 0.2 กรัม
- ไลโคปีน 4,532 ไมโครกรัม
- วิตามินซี 8.1 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 112 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 10 มิลลิกรัม
ทำไมแตงโมถึงเหมาะกับคนลดน้ำหนัก
แตงโมเป็นผลไม้ลดน้ำหนักยอดนิยมเพราะมีแคลอรี่ต่ำมาก แต่ให้ความสดชื่นและอิ่มท้อง ด้วยปริมาณน้ำสูงถึง 92% ช่วยให้ร่างกายได้รับน้ำเพียงพอ ลดอาการบวมน้ำ สารไลโคปีนในแตงโมยังช่วยต้านการอักเสบและกระตุ้นการเผาผลาญ นอกจากนี้ กรดอะมิโน L-citrulline ในแตงโมยังช่วยลดการสะสมไขมันในเซลล์และเพิ่มประสิทธิภาพการออกกำลังกาย
วิธีเลือกซื้อและการรับประทาน
เลือกแตงโมที่มีผิวเรียบเป็นมัน เมื่อเคาะแล้วมีเสียงโปร่ง ขั้วเขียวสด จุดสีครีมที่สัมผัสพื้นควรมีสีเหลืองนวล สำหรับคนลดน้ำหนัก ควรรับประทานในช่วงเช้าหรือก่อนออกกำลังกาย เพราะน้ำตาลธรรมชาติในแตงโมจะถูกใช้เป็นพลังงานได้ทันที แนะนำให้ทานครั้งละไม่เกิน 2 ชิ้นคำ
7. นมจืด – แคลอรี่และสารอาหาร
คุณค่าทางโภชนาการ
สำหรับใครที่สงสัยว่านมจืดกี่แคล นมสดรสจืด 1 กล่อง (225 มล.) ประกอบด้วย
- พลังงานรวม 130 แคลอรี่
- โปรตีน 8 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 12 กรัม
- ไขมัน 8 กรัม
- แคลเซียม 280 มิลลิกรัม
- วิตามินดี 100 IU
- วิตามินบี 12 1.1 ไมโครกรัม
- โพแทสเซียม 390 มิลลิกรัม
ทำไมนมจืดถึงเหมาะกับคนลดน้ำหนัก
นมจืดเป็นเครื่องดื่มที่อุดมด้วยโปรตีนคุณภาพสูงและแคลเซียม งานวิจัยจาก Journal of Nutrition พบว่าผู้ที่ดื่มนมเป็นประจำระหว่างลดน้ำหนักสามารถรักษามวลกล้ามเนื้อได้ดีกว่า และลดไขมันหน้าท้องได้มากกว่ากลุ่มที่ไม่ดื่มนมถึง 61% (Thompson et al., 2023)
วิธีเลือกซื้อและการรับประทาน
ควรเลือกนมจืดที่มีไขมันต่ำหรือพร่องมันเนย ดูวันหมดอายุให้ดี และสังเกตบรรจุภัณฑ์ต้องไม่บวม ไม่รั่ว เก็บในตู้เย็นทันทีหลังซื้อ แนะนำให้ดื่มหลังออกกำลังกายทันทีเพื่อฟื้นฟูกล้ามเนื้อ หรือดื่มก่อนนอนเพราะโปรตีนในนมช่วยซ่อมแซมกล้ามเนื้อระหว่างนอนหลับ
8. มะม่วงเขียวเสวย – แคลอรี่และสารอาหาร
คุณค่าทางโภชนาการ
หากคุณกำลังสงสัยว่ามะม่วงเขียวเสวย 1 ลูกกี่แคล มะม่วงเขียวเสวยขนาดกลาง (150 กรัม) ประกอบด้วย
- พลังงานรวม 90 แคลอรี่
- คาร์โบไฮเดรต 23 กรัม
- ใยอาหาร 3.2 กรัม
- โปรตีน 0.8 กรัม
- ไขมัน 0.3 กรัม
- วิตามินซี 35 มิลลิกรัม
- วิตามินเอ 765 IU
- โพแทสเซียม 210 มิลลิกรัม
ทำไมมะม่วงเขียวเสวยถึงเหมาะกับคนลดน้ำหนัก
มะม่วงเขียวเสวยเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนลดน้ำหนักเพราะมีรสเปรี้ยว แคลอรี่ต่ำ และมีเส้นใยสูง ซึ่งช่วยให้อิ่มนาน นอกจากนี้รสเปรี้ยวยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญได้ดี
วิธีเลือกซื้อและการรับประทาน
เลือกมะม่วงที่มีผิวสีเขียวสด ไม่มีรอยช้ำ น้ำหนักดี แน่นเมื่อบีบเบาๆ กลิ่นหอมอ่อนๆ ควรล้างให้สะอาดก่อนรับประทาน สำหรับคนลดน้ำหนัก ควรทานเป็นของว่างมื้อเช้าหรือกลางวัน หลีกเลี่ยงการทานกับน้ำปลาหวานเพื่อควบคุมแคลอรี่
9. แตงไทย – แคลอรี่และสารอาหาร
คุณค่าทางโภชนาการ
สำหรับคำถามที่ว่าแตงไทยกี่แคล แตงไทย 1 ถ้วย (100 กรัม) ประกอบด้วย
- พลังงานรวม 35 แคลอรี่
- คาร์โบไฮเดรต 8 กรัม
- ใยอาหาร 0.8 กรัม
- โปรตีน 0.7 กรัม
- ไขมัน 0.2 กรัม
- วิตามินซี 12 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 170 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 12 มิลลิกรัม
ทำไมแตงไทยถึงเหมาะกับคนลดน้ำหนัก
แตงไทยเป็นของว่างที่เหมาะกับการลดน้ำหนักเพราะมีแคลอรี่ต่ำมาก มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลัก ช่วยให้รู้สึกอิ่มได้ดี เหมาะสำหรับทานแก้หิวระหว่างมื้อ อุดมด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย
วิธีเลือกซื้อและการรับประทาน
เลือกแตงไทยที่มีผิวเรียบ สีเขียวสดเป็นมัน ไม่มีรอยช้ำ เมื่อเคาะควรมีเสียงตึงๆ แสดงว่าเนื้อกรอบ ก่อนรับประทานควรล้างให้สะอาดและปอกเปลือกบางๆ เพื่อรักษาวิตามินใต้เปลือก เหมาะสำหรับทานเป็นของว่างระหว่างมื้อหรือหลังออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความสดชื่น
10. กล้วยปิ้ง – แคลอรี่และสารอาหาร
คุณค่าทางโภชนาการ
หากสงสัยว่ากล้วยปิ้งกี่แคล กล้วยหอมปิ้ง 1 ลูก (120 กรัม) ประกอบด้วย
- พลังงานรวม 140 แคลอรี่
- คาร์โบไฮเดรต 35.8 กรัม
- น้ำตาล 19 กรัม
- ใยอาหาร 3.1 กรัม
- โปรตีน 1.7 กรัม
- ไขมัน 0.5 กรัม
- โพแทสเซียม 422 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 34 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 6 0.43 มิลลิกรัม
ทำไมกล้วยปิ้งถึงเหมาะกับคนลดน้ำหนัก
กล้วยปิ้งเป็นอาหารว่างที่ให้พลังงานยาวนาน เหมาะสำหรับคนลดน้ำหนักที่ออกกำลังกาย เพราะการปิ้งทำให้แป้งในกล้วยเปลี่ยนเป็นแป้งต้านทาน (Resistant Starch) ช่วยให้อิ่มนาน ควบคุมน้ำตาลในเลือด และเป็นอาหารให้จุลินทรีย์ดีในลำไส้
วิธีเลือกซื้อและการรับประทาน
ควรเลือกกล้วยที่สุกพอดี เปลือกสีเหลืองทอง มีจุดดำเล็กน้อย ไม่สุกเกินไป เพื่อให้เมื่อปิ้งแล้วไม่เละ ควรรับประทานตอนอุ่นๆ และหลีกเลี่ยงการราดน้ำกะทิเพื่อควบคุมแคลอรี่
11. น้ำมะพร้าว – แคลอรี่และสารอาหาร
คุณค่าทางโภชนาการ
สำหรับคนที่สงสัยว่าน้ํามะพร้าวกี่แคล น้ำมะพร้าวอ่อน 1 ลูก (200 มล.) ประกอบด้วย
- พลังงานรวม 46 แคลอรี่
- คาร์โบไฮเดรต 11.4 กรัม
- น้ำตาล 11 กรัม
- โซเดียม 105 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 600 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 60 มิลลิกรัม
- แคลเซียม 58 มิลลิกรัม
- วิตามินซี 5.8 มิลลิกรัม
ทำไมน้ำมะพร้าวถึงเหมาะกับคนลดน้ำหนัก
น้ำมะพร้าวเป็นเครื่องดื่มธรรมชาติที่มีแคลอรี่ต่ำ อุดมด้วยอิเล็กโทรไลต์ เหมาะสำหรับดื่มระหว่างหรือหลังออกกำลังกาย ช่วยเติมพลังงานและเกลือแร่ที่เสียไปจากเหงื่อ โพแทสเซียมสูงช่วยลดอาการบวมน้ำ
วิธีเลือกซื้อและการรับประทาน
เลือกมะพร้าวอ่อนที่มีเปลือกสีเขียวอ่อน ไม่มีรอยช้ำหรือรอยแตก เขย่าแล้วมีเสียงน้ำกระฉอก ควรดื่มสดๆ ไม่ควรเก็บค้างคืน และไม่ควรเติมน้ำตาลเพิ่ม สำหรับคนลดน้ำหนักแนะนำให้ดื่มหลังออกกำลังกายทันที
12. ปอเปี๊ยะทอด – แคลอรี่และสารอาหาร
คุณค่าทางโภชนาการ
หากสงสัยว่าปอเปี๊ยะทอดกี่แคล ปอเปี๊ยะทอด 1 ชิ้น (40 กรัม) ประกอบด้วย
- พลังงานรวม 115 แคลอรี่
- คาร์โบไฮเดรต 13 กรัม
- โปรตีน 2.5 กรัม
- ไขมัน 6.5 กรัม
- ใยอาหาร 1.2 กรัม
- โซเดียม 150 มิลลิกรัม
- แคลเซียม 25 มิลลิกรัม
- เหล็ก 0.8 มิลลิกรัม
ทำไมปอเปี๊ยะทอดถึงเหมาะกับคนลดน้ำหนัก
แม้จะเป็นของทอด แต่ปอเปี๊ยะทอดสามารถเป็นตัวเลือกสำหรับคนลดน้ำหนักได้ถ้ารู้วิธีเลือกและทานอย่างเหมาะสม เพราะไส้ส่วนใหญ่เป็นผัก ให้ใยอาหารสูง และถ้าทอดด้วยวิธีที่ถูกต้อง จะมีแคลอรี่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับขนมทอดทั่วไป
วิธีเลือกซื้อและการรับประทาน
ควรเลือกร้านที่ใช้น้ำมันใหม่ ทอดจนเหลืองทองไม่ไหม้ ซับน้ำมันให้ดี สำหรับคนลดน้ำหนักควรทานไม่เกิน 1-2 ชิ้นต่อมื้อ และควรทานคู่กับผักสด แทนการจิ้มน้ำจิ้มหวาน ควรทานในมื้อหลักแทนการทานเป็นของว่าง
13. ต้มยำกระดูกหมู – แคลอรี่และสารอาหาร
คุณค่าทางโภชนาการ
หลายคนสงสัยว่าต้มยํากระดูกหมูกี่แคล ต้มยำกระดูกหมู 1 ชาม (250 มล.) ประกอบด้วย
- พลังงานรวม 220 แคลอรี่
- โปรตีน 18 กรัม
- ไขมัน 15 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 8 กรัม
- เส้นใย 2 กรัม
- แคลเซียม 45 มิลลิกรัม
- เหล็ก 1.8 มิลลิกรัม
- โซเดียม 680 มิลลิกรัม
ทำไมต้มยำกระดูกหมูถึงเหมาะกับคนลดน้ำหนัก
ต้มยำกระดูกหมูเป็นอาหารไทยที่เหมาะกับการลดน้ำหนักเพราะเป็นอาหารประเภทต้ม มีแคลอรี่ไม่สูงมาก อุดมด้วยโปรตีนและคอลลาเจนจากกระดูกหมู เครื่องเทศในน้ำต้มยำช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ โดยเฉพาะพริกและข่าที่มีสารแคปไซซินช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน
วิธีเลือกซื้อและการรับประทาน
เลือกกระดูกหมูที่สด เนื้อติดกระดูกมีสีชมพูสดใส ไม่มีกลิ่นเหม็น ควรต้มให้เปื่อยนุ่มแต่ไม่แตกยุ่ย เลือกใส่ผักให้หลากหลาย และควรชิมรสก่อนปรุงเพิ่มเพื่อควบคุมปริมาณโซเดียม สำหรับคนลดน้ำหนักควรรับประทานเป็นมื้อกลางวัน และหลีกเลี่ยงการกินน้ำซุปปริมาณมากเพื่อลดการได้รับโซเดียม
14. ข้าวโพด – แคลอรี่และสารอาหาร
คุณค่าทางโภชนาการ
สำหรับคนที่สงสัยว่าข้าวโพด 1 ฝักกี่แคล ข้าวโพดต้มหวาน 1 ฝัก (100 กรัม) ประกอบด้วย
- พลังงานรวม 86 แคลอรี่
- คาร์โบไฮเดรต 19 กรัม
- ใยอาหาร 2.7 กรัม
- โปรตีน 3.2 กรัม
- ไขมัน 1.2 กรัม
- วิตามินซี 7 มิลลิกรัม
- โฟเลต 46 ไมโครกรัม
- แมกนีเซียม 37 มิลลิกรัม
- ลูทีน และซีแซนทีน 644 ไมโครกรัม
ทำไมข้าวโพดถึงเหมาะกับคนลดน้ำหนัก
ข้าวโพดเป็นของว่างที่อุดมด้วยใยอาหารและให้พลังงานค่อนข้างต่ำ ใยอาหารช่วยให้อิ่มนาน ทั้งยังมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง โดยเฉพาะลูทีนที่ช่วยดูแลสายตา เหมาะสำหรับคนลดน้ำหนักที่ต้องการอาหารว่างที่มีประโยชน์
วิธีเลือกซื้อและการรับประทาน
เลือกข้าวโพดที่มีเมล็ดเรียงแน่น ไหมสีน้ำตาลอ่อน เปลือกสีเขียวสด ไม่มีรอยแมลงกัด ควรต้มให้สุกพอดี ไม่นานเกินไปจนเมล็ดเหี่ยว สำหรับคนลดน้ำหนักควรทานโดยไม่เติมเนย เกลือ หรือนมข้น เพื่อควบคุมแคลอรี่
15. ต้มแซ่บกระดูกหมู – แคลอรี่และสารอาหาร
คุณค่าทางโภชนาการ
หากสงสัยว่าต้มแซ่บกระดูกหมูกี่แคล ต้มแซ่บกระดูกหมู 1 ชาม (250 มล.) ประกอบด้วย
- พลังงานรวม 205 แคลอรี่
- โปรตีน 17 กรัม
- ไขมัน 14 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 6 กรัม
- เส้นใย 2.5 กรัม
- แคลเซียม 42 มิลลิกรัม
- เหล็ก 1.6 มิลลิกรัม
- โซเดียม 650 มิลลิกรัม
ทำไมต้มแซ่บกระดูกหมูถึงเหมาะกับคนลดน้ำหนัก
ต้มแซ่บกระดูกหมูเป็นอาหารไทยรสจัดที่มีแคลอรี่ปานกลาง เครื่องเทศอย่างตะไคร้ ข่า และพริกช่วยกระตุ้นการเผาผลาญ น้ำมะนาวช่วยย่อยไขมัน ผักใบเขียวในน้ำแกงให้วิตามินและเส้นใยสูง เหมาะสำหรับคนลดน้ำหนักที่ชอบอาหารรสจัด
วิธีเลือกซื้อและการรับประทาน
เลือกกระดูกหมูที่สด สีชมพูอมแดง ไม่มีกลิ่นเหม็น เครื่องปรุงต้องสด โดยเฉพาะตะไคร้และใบมะกรูดที่ให้กลิ่นหอม ควรต้มกระดูกให้นุ่มแต่ไม่เละ สำหรับคนลดน้ำหนักควรเลือกกินเฉพาะเนื้อและผัก ดื่มน้ำซุปแต่พอประมาณเพื่อควบคุมปริมาณโซเดียม
คำถามที่พบบ่อย
Q : ทานอาหารแคลอรี่ต่ำอย่างเดียว ทำไมยังลดน้ำหนักไม่ได้?
A : เพราะการลดน้ำหนักไม่ได้ขึ้นอยู่กับแคลอรี่อย่างเดียว แต่ขึ้นกับจังหวะเวลาการทานและฮอร์โมน การทานอาหารดึก ขาดการนอน หรือเครียด จะทำให้ฮอร์โมนคอร์ติซอลสูง ส่งผลให้ร่างกายสะสมไขมันแม้ทานน้อย
Q : ต้องนับแคลอรี่ทุกมื้อไหม ถ้าอยากลดน้ำหนัก?
A : ไม่จำเป็น ให้นับแคลอรี่เพียง 2 สัปดาห์แรกเพื่อให้เข้าใจปริมาณอาหาร หลังจากนั้นใช้การกะด้วยสายตาและความรู้สึกอิ่มแทน เพราะการนับแคลอรี่ตลอดจะสร้างความเครียดและล้มเลิกได้ง่าย
Q : รับประทานผลไม้ไม่จำกัด ดีไหม?
A : ไม่ดี แม้ผลไม้จะมีวิตามิน แต่ก็มีน้ำตาลฟรุคโตสสูง ควรทานไม่เกิน 2 ส่วนต่อวัน เลือกทานช่วงเช้าหรือก่อนออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงการทานผลไม้หลัง 18.00 น.
Q : ดื่มน้ำมากๆ ช่วยลดน้ำหนักได้จริงไหม?
A : ได้ผลจริง การดื่มน้ำ 2-3 ลิตรต่อวันช่วยเร่งการเผาผลาญ ลดการสะสมน้ำ และควบคุมความหิว แต่ต้องดื่มกระจายตลอดวัน ไม่ใช่ดื่มมากๆ ในครั้งเดียว
Q : งดอาหารเย็นช่วยลดน้ำหนักเร็วจริงไหม?
A : ไม่จริง การงดอาหารเย็นทำให้หิวมากและทานมากในมื้อถัดไป ควรทานมื้อเย็นปกติแต่เลือกอาหารโปรตีนและผัก ลดแป้งและน้ำตาล ทานก่อน 18.00 น.
Q : ออกกำลังกายตอนท้องว่างช่วยลดไขมันได้ดีกว่าจริงไหม?
A : จริง เพราะร่างกายจะใช้ไขมันสะสมเป็นพลังงาน แต่ไม่ควรออกกำลังกายหนักเกิน 30 นาที เพราะร่างกายอาจสลายกล้ามเนื้อแทน
Q : ทำไมลดน้ำหนักแล้วหน้าไม่เรียว?
A : เพราะไขมันหน้าจะลดลงเป็นที่สุดท้าย ต้องลดน้ำหนักอย่างน้อย 10% ของน้ำหนักตัว หน้าถึงจะเริ่มเรียว ร่วมกับการลดอาหารเค็มและแอลกอฮอล์
Q : ลดน้ำหนักแล้วผิวหย่อนคล้อย แก้ยังไง?
A : เพิ่มการออกกำลังกายแบบเวทเทรนนิ่ง 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ ทานโปรตีนให้เพียงพอ 1.6-2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม และดื่มน้ำให้เพียงพอ
Q : ยอมอ้วนดีกว่าไหม ลดยังไงก็โยโย่?
A : การโยโย่เกิดจากการลดน้ำหนักแบบผิดวิธี ควรลดแบบช้าๆ 0.5-1 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ เน้นสร้างนิสัยการกินใหม่ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
Q : ทานอาหารเสริมช่วยลดน้ำหนัก ดีไหม?
A : ไม่แนะนำ เพราะส่วนใหญ่เป็นยาลดน้ำหนักแฝง มีผลข้างเคียงต่อตับและไต ควรปรับพฤติกรรมการกินและออกกำลังกายจะปลอดภัยกว่า
บทสรุป
การลดน้ำหนักที่ได้ผลจริงต้องควบคุมทั้งปริมาณแคลอรี่และคุณภาพอาหาร โดยเน้นอาหารโปรตีนสูง แคลอรี่ต่ำ ใยอาหารสูง หลีกเลี่ยงน้ำตาลและแป้งขัดขาว ทานผักให้มาก เลือกผลไม้ที่น้ำตาลต่ำ และควบคุมปริมาณต่อมื้อ ร่วมกับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่ง สัปดาห์ละ 4-5 ครั้ง ครั้งละ 45-60 นาที จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้ผลดีและยั่งยืน