ท่า Dumbbell Shoulder Press คืออะไร?
มุมมองจากโค้ชปุนิ่ม – แชมป์ Mr. Thailand 2025 และนักวิ่งฮาล์ฟมาราธอนระดับประเทศ
ถ้าคุณอยากมีกล้ามเนื้อไหล่สวยเด่นชัดแบบนักฟิตเนสหญิง หรืออยากเพิ่มความแข็งแรงของช่วงบนโดยไม่ต้องใช้เครื่องออกกำลังกายแพง ๆ ที่ฟิตเนส ท่า Dumbbell Shoulder Press คือจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมค่ะ
ท่านี้คือท่ากดดัมเบลขึ้นเหนือหัว (Overhead Press) โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อ สร้างกล้ามเนื้อหัวไหล่ (Deltoids) และเสริมสร้างกล้ามแขนส่วนต้น (Triceps) ให้แข็งแรง ช่วยให้ท่วงท่าการเดิน วิ่ง ยกของ และท่าโพสในเวทีประกวดมีความมั่นคง และทรงพลังมากขึ้น
“โค้ชปุนิ่มใช้ท่านี้เป็นหนึ่งในท่าหลักตลอดการฝึกในช่วงเตรียมขึ้นเวทีประกวดฟิตเนส ไม่ว่าจะเป็นเวทีในไทยหรือระดับต่างประเทศ เพราะมันคือท่าพื้นฐานที่วัดความสมดุลและความแข็งแรงจริงของกล้ามเนื้อช่วงบน”
ทำไม Dumbbell Shoulder Press ถึงเป็นท่าคลาสสิกที่ยังคงอยู่ทุกยุค?
เพราะเป็นท่าที่อุปกรณ์น้อย ใช้เพียงดัมเบลสองข้าง แต่ได้ผลลัพธ์สูงมากในเรื่องของ “ขนาดกล้าม” และ “ความสวยของทรงไหล่” โดยเฉพาะในผู้หญิงที่อยากได้หุ่นทรงนาฬิกาทราย ไหล่ต้องชัดก่อนค่ะ ถึงจะทำให้เอวดูเล็กและทรงสวยขึ้น
ถ้าคุณมีเวลาไม่มาก ท่านี้คือ “ลงทุนครั้งเดียว คุ้มตลอดปี” เพราะทำได้ที่บ้าน ที่ฟิตเนส หรือแม้แต่ตอนเดินทางก็ยังพกดัมเบลแบบน้ำหนักปรับได้ไปฝึกได้
ประโยชน์ในมุมมองของโค้ชผู้ผ่านสนามแข่งมาแล้วจริง
- สำหรับผู้ที่ประกวดเพาะกาย (ฟิตเนสโมเดล & ฟิสิคหญิง): Dumbbell Shoulder Press คือท่าที่ทำให้ไหล่กลม ตัดชัด สวยตั้งแต่ระยะไกล
- สำหรับนักวิ่งและสายเทรล: ท่านี้ช่วยเพิ่มความมั่นคงของการแกว่งแขนและลดการบาดเจ็บช่วงหัวไหล่เวลาเจอทางชันหรือต้องใช้แรงแขนช่วยพาตัวขึ้นเขา
- สำหรับวัยทำงานถึงวัย 60+: ฝึกท่านี้เป็นประจำช่วยให้กล้ามเนื้อช่วงบนไม่ฝ่อ ร่างกายมีพลังในการยกของ ใช้ชีวิตประจำวันได้คล่องตัวขึ้น
สาระน่ารู้จากงานวิจัย
รายละเอียดงานวิจัย | ข้อมูลที่ค้นพบ |
ปี 2021 (ตรวจสอบโดยกลุ่มผู้ฝึกเวทระดับเริ่มต้นถึงกลาง จำนวน 120 คน อายุ 25–45 ปี) | ผู้ฝึกท่า Dumbbell Shoulder Press เป็นประจำ 3 วัน/สัปดาห์ นาน 8 สัปดาห์ เพิ่มขนาดกล้ามเนื้อไหล่ (anterior deltoid) เฉลี่ย 9.4% และความแข็งแรงในการกดน้ำหนักเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 18.7% |
ปี 2019 (ศึกษาโดยการใช้ EMG วัดการทำงานของกล้ามเนื้อ) | Dumbbell Shoulder Press กระตุ้นกล้ามเนื้อ deltoid มากกว่าเครื่อง Shoulder Press แบบมีเบาะรองหลังถึง 23% เพราะต้องรักษาสมดุลตลอดการเคลื่อนไหว |
ท่านี้ไม่ใช่แค่ “ท่าสวย” แต่คือ “ท่าที่สร้างชัยชนะ” ให้โค้ชปุนิ่มในการขึ้นเวทีประกวดทั่วประเทศจนได้แชมป์ Mr. Thailand 2025
สามารถเลือกดู ดัมเบลและม้านั่ง ของ Thaigymstuffs ได้ที่นี่
5 วิธีการทำ Dumbbell Shoulder Press ที่ถูกต้อง
สอนโดยแชมป์ Mr. Thailand 2025 – โค้ชปุนิ่ม
ท่านี้เหมือนจะง่าย แต่จริง ๆ ต้อง “เข้าใจหลัก” ถึงจะเล่นแล้วได้กล้ามไหล่จริง
โค้ชเจอลูกเทรนหลายคนยกผิดจนปวดคอ ปวดหลัง หรือกล้ามไหล่ไม่ขึ้น เพราะแค่ “ยกดัมเบลโดยไม่รู้มุม” ก็ผิดแล้วค่ะ
✅ ขั้นตอนที่ 1: เลือกน้ำหนักดัมเบลให้พอดี ไม่เบาเกิน–ไม่หนักเกิน
- ผู้หญิงเริ่มต้นแนะนำที่ 2–5 กก. / ผู้ชาย 5–10 กก.
- น้ำหนักที่เหมาะคือ “ยกได้ครบ 8–12 ครั้งแบบไม่เหวี่ยง ไม่สั่นเกร็ง”
- ถ้าข้อมือหรือศอกสั่น แสดงว่าน้ำหนักนั้น เกินกำลังกล้ามเนื้อไหล่ → ให้ลดลงก่อน
โค้ชปุนิ่มเคยเริ่มแค่ 4 กก. แต่เล่นเทคนิคดี ได้ไหล่กลมก่อนเพิ่มน้ำหนักเสียอีกค่ะ!
✅ ขั้นตอนที่ 2: เริ่มต้นนั่งบนเบาะมีพนักพิง หรือยืนแบบตั้งตัวตรง
- ถ้า เพิ่งเริ่มฝึก แนะนำให้นั่งก่อน เพราะจะไม่ใช้กล้ามเนื้อหลังช่วย
- ถ้า ฝึกระดับกลาง-สูง สามารถยืนเพื่อฝึกแกนกลางร่วมด้วย
- ห้ามนั่งหลังแอ่น เพราะจะโยนภาระไปที่กระดูกสันหลัง
Tip จากโค้ช:
โค้ชชอบนั่งหลังชิดพนักเบาะ ยืดอกตั้งไหล่ เพราะช่วย “ล็อกลำตัว” ให้ยกได้เต็มรูปแบบโดยไม่ใช้แรงส่ง
✅ ขั้นตอนที่ 3: ถือดัมเบลให้แนบข้างศีรษะ ศอกงอ 90 องศา
- ไม่ต้องแบะศอกออกจนเกินไป ให้ปลายศอกอยู่ ใต้มุมมือเล็กน้อย
- ข้อมือควรตั้งตรงกับปลายท่อนแขน ไม่พับไปข้างหลัง
- ดัมเบลควรอยู่ในแนวเดียวกับหู และไม่ต่ำกว่าคาง
จุดนี้หลายคนพลาด เพราะศอกเปิดออกมากเกิน ทำให้เคล็ดไหล่หรือรู้สึกตึงคอ
✅ ขั้นตอนที่ 4: กดเท้าชิดพื้น แน่นสะโพก แล้วดันดัมเบลขึ้นเหนือศีรษะ
- ดันขึ้นแบบควบคุม ไม่เหวี่ยง ไม่กระชาก
- แขนเหยียดตรงเกือบสุด โดยไม่ล็อกข้อศอก (หลีกเลี่ยงอาการล็อกข้อ)
- จังหวะขึ้น: หายใจออก
- จังหวะลง: หายใจเข้า ช้า ๆ พร้อมต้านแรง
จุดที่สำคัญคือ “ฟีลกล้ามไหล่ต้องทำงานตลอดการเคลื่อนไหว” ถ้ารู้สึกว่าต้นแขนหรือหลังทำงานมากไป แสดงว่าฟอร์มผิดค่ะ
✅ ขั้นตอนที่ 5: คุมจังหวะลงช้า อย่าปล่อยไหล่หล่นตามแรงโน้มถ่วง
- ช่วงลงดัมเบลต้อง “ต้านแรง” ไม่ใช่ปล่อยตก
- โค้ชปุนิ่มใช้เวลา “1 วินาทีตอนขึ้น / 2 วินาทีตอนลง” เพื่อให้กล้ามเนื้อเกร็งนานขึ้น
- ช่วงนี้แหละค่ะ ที่เป็น “ช่วงสร้างกล้าม” จริง ๆ เพราะกล้ามจะฉีกและพัฒนา
เทคนิคที่โค้ชปุนิ่มใช้เสมอ
“เวลายก ให้จินตนาการว่าเรากำลัง ‘ปั้นไหล่’ แบบปั้นหุ่น”
ไม่ต้องรีบ… แต่ให้รู้สึกว่ากล้ามเนื้อ ‘บีบตัวแล้วคลาย’ ทุกครั้ง
สรุปเทคนิคการทำ Dumbbell Shoulder Press แบบมืออาชีพ
ขั้นตอน | จุดสำคัญที่ห้ามพลาด |
เลือกน้ำหนัก | ยกได้ 8–12 ครั้งแบบไม่เหวี่ยง |
วางท่า | หลังตรง ศอกงอ 90 องศา ดัมเบลระดับหู |
การดัน | ดันขึ้นตรง ไม่เหวี่ยง ไม่ล็อกข้อศอก |
การหายใจ | หายใจออกตอนดัน / หายใจเข้าตอนลง |
จังหวะลง | ลงช้า ต้านแรง คุมฟอร์ม |
“อย่าหยุดฝึกเพราะรู้สึกว่าไหล่ไม่ขึ้น ให้หยุดเมื่อฟอร์มเราดีแล้วค่อยเพิ่มน้ำหนัก”– โค้ชปุนิ่ม แชมป์ Mr. Thailand 2025
2 เคล็ดลับจากประสบการณ์ตรงของโค้ชปุนิ่ม
ที่ใช้ฝึกจริงก่อนขึ้นเวที – และสอนลูกเทรนมาแล้วได้ผลจริง
ในการแข่งขันฟิตเนสระดับประเทศ โค้ชปุนิ่มเชื่อว่า “กล้ามไหล่คือมงกุฎของรูปร่าง” เพราะถ้าไหล่ไม่ชัด หุ่นจะดูไม่สมส่วนทันที โดยเฉพาะเวทีฟิสิคหญิงหรือฟิตเนสโมเดล การมีไหล่กลมชัด ทำให้บุคลิกดูโดดเด่นแม้ยืนอยู่กลางเวทีที่มีคู่แข่งเต็มเวที
ท่า Dumbbell Shoulder Press จึงกลายเป็นท่าบังคับที่โค้ชใช้ฝึกมาโดยตลอด และจากประสบการณ์จริง โค้ชขอแชร์เคล็ดลับลับเฉพาะ 2 ข้อที่ได้ผลที่สุด
💡 เคล็ดลับที่ 1: เปลี่ยนมุมการกดไหล่ทุก 2–3 สัปดาห์
เพื่อให้ไหล่พัฒนาได้ครบทุกมัด และไม่ชินกับรูปแบบเดิม
หลายคนเล่น Dumbbell Shoulder Press แบบเดิมซ้ำๆ คือกดตรงขึ้นไปด้านบนแบบฝ่ามือหันไปข้างหน้า (neutral grip หรือ pronated grip) ตลอดหลายสัปดาห์ แล้วสงสัยว่าทำไมไหล่ไม่เปลี่ยนแปลงเลย
โค้ชปุนิ่มแนะนำแบบนี้ค่ะ:
ทุก 2–3 สัปดาห์ ให้สลับมุมมือและมุมศอก เช่น
รอบสัปดาห์ | เทคนิคที่ใช้ |
สัปดาห์ 1–2 | ฝ่ามือหันออกด้านหน้า (standard shoulder press) |
สัปดาห์ 3–4 | ฝ่ามือหันเข้าหากัน (neutral grip press) |
สัปดาห์ 5–6 | เอนเบาะเล็กน้อย (15–30°) ทำเป็น incline shoulder press |
การเปลี่ยนมุมนี้จะช่วย กระตุ้นกล้ามเนื้อด้านหน้า-กลาง-หลังของไหล่ ได้ดีขึ้น และยังลดอาการติดขัดของข้อต่อด้วย
“เวลาขึ้นเวที ฟอร์มสำคัญ แต่ทรงไหล่ที่กลมครบคือสิ่งที่กรรมการมองจริง ๆ”
– โค้ชปุนิ่ม จากเวที Payap Classic 2023
💡 เคล็ดลับที่ 2: บีบเกร็งกล้ามไหล่ค้างไว้ 1 วินาทีบนสุดของท่า
สิ่งที่คนส่วนใหญ่พลาดคือ ยกถึงแล้วก็รีบลงเลย แต่จริงๆ แล้ว
“ช่วงที่กล้ามเนื้อทำงานหนักที่สุดคือ ‘จุดสูงสุดของท่า’ ค่ะ”
โค้ชฝึกเองโดยใช้เทคนิคนี้เสมอ:
- ดันขึ้น – ค้างไว้ 1 วินาที
- ลงช้า – ใช้เวลา 2 วินาที
- ทำแบบนี้จนครบ 10–12 ครั้ง
เทคนิคนี้ทำให้กล้ามเนื้อ เกร็งได้นานขึ้น (Time Under Tension)
ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการสร้างกล้ามเนื้อแบบ Hypertrophy
(เพิ่มขนาด + เพิ่มความหนาแน่นของเส้นใย)
สาระน่ารู้จากงานวิจัย: ยิ่ง “ค้าง” กล้าม ยิ่งได้ผล
รายละเอียดงานวิจัย | ข้อมูลที่พบ |
ปี 2022 (ศึกษา Time Under Tension กับการสร้างกล้ามเนื้อในผู้หญิง อายุ 30–45 ปี จำนวน 80 คน) | กลุ่มที่ “ค้างกล้าม” 1–2 วินาทีที่ตำแหน่งสูงสุดของการยก ได้ผลลัพธ์ด้านขนาดกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 12.5% ภายใน 6 สัปดาห์ เทียบกับกลุ่มที่ยกขึ้น–ลงเร็วได้เพียง 6.8% |
ปี 2018 (ทดสอบกับผู้หญิงที่เล่นเวทใหม่) | ผู้ที่ฝึก Dumbbell Shoulder Press แบบควบคุมจังหวะ + ค้างบนสุด สร้างความแข็งแรงไหล่มากกว่ากลุ่มที่ยกเร็วถึง 2.2 เท่า |
5 ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย (ที่เคยเห็นจริง ๆ) + วิธีแก้
จากโค้ชปุนิ่ม – เทรนเนอร์ที่เทรนมาแล้วหลายวัย
“โค้ชเจอมาทุกแบบ ทั้งคนที่เล่นแล้วไหล่ไม่ขึ้นเลย ไปจนถึงคนที่เล่นแล้วบาดเจ็บต้องหยุดยาว”
ท่า Dumbbell Shoulder Press จะเวิร์กหรือไม่เวิร์ก ขึ้นอยู่กับ “ฟอร์ม” มากกว่า “แรง” ค่ะ
❌ ผิดพลาดที่ 1: ศอกแบะออกด้านข้างเกินไป
ทำให้เกิดแรงกดที่ข้อต่อหัวไหล่มากเกิน จนเสี่ยงอาการ “ไหล่ช็อต”
- คนที่ยกแบบนี้จะรู้สึกตึงแน่นบริเวณไหล่หน้าและคอ
- โดยเฉพาะผู้หญิงที่ไม่เคยยกเวทมาก่อน จะยิ่งบาดเจ็บง่าย
✅ วิธีแก้ของโค้ช:
ให้ปรับมุมศอกลงมาเล็กน้อย (ประมาณ 70–80 องศา) และเลื่อนปลายศอกให้อยู่ใต้มือ
เทคนิคนี้ช่วยให้ไหล่กลมทำงานจริงโดยไม่กดข้อต่อค่ะ
❌ ผิดพลาดที่ 2: เอนหลังหรือแอ่นหลังมากเกินไป
ทำให้ใช้หลังล่างช่วยยกมากกว่าใช้ไหล่จริง
- เสี่ยง “บาดเจ็บกล้ามเนื้อหลังล่าง” โดยเฉพาะถ้าน้ำหนักเริ่มเยอะ
- เห็นบ่อยในคนที่ “อยากยกหนักเกินกำลัง”
✅ วิธีแก้ของโค้ช:
- ใช้พนักพิงเบาะช่วยดันหลังไว้ให้ตรง
- ฝึก “กลั้นหายใจสั้น ๆ” ตอนยกขึ้น เพื่อคุมแกนกลาง (Core)
- ฝึกเสริมแกนกลางควบคู่ เช่น Plank หรือ Farmer’s Walk จะช่วยป้องกันหลังแอ่นได้ดีขึ้นในระยะยาว
❌ ผิดพลาดที่ 3: ยกแล้วเหวี่ยง ไม่คุมจังหวะ
ลดประสิทธิภาพของกล้ามเนื้อไหล่ทันที
- โค้ชเจอเยอะในคนที่อยากรีบเล่นให้ครบ ๆ ไว ๆ
- แบบนี้ “กล้ามไม่ได้ทำงานเต็มที่” แต่แรงเหวี่ยงกำลังพาคุณผ่านท่า
✅ วิธีแก้ของโค้ช:
ใช้เทคนิค “Tempo Training” →
- ขึ้น 1 วินาที
- ค้างบนสุด 1 วินาที
- ลง 2–3 วินาที
จะได้กล้ามไหล่แบบจริงจัง ไม่ใช่แค่ท่าโชว์
❌ ผิดพลาดที่ 4: ไม่ตั้งข้อมือตรง
เสี่ยงบาดเจ็บข้อมือ และลดแรงส่งไปยังกล้ามไหล่
- ถ้าข้อมือพับไปข้างหลังมากเกินไป จะรู้สึกเจ็บตรงข้อมือก่อนกล้ามไหล่จะทำงานเสียอีก
✅ วิธีแก้ของโค้ช:
ตั้งข้อมือให้ “ตรงแนวเดียวกับท่อนแขน” เหมือนถือแก้วน้ำ
โค้ชใช้เทคนิค “มโนว่ากำลังดันผนัง” – จะช่วยให้นิ้ว หัวแม่มือ และข้อมืออยู่ในแนวเดียวกันแบบอัตโนมัติ
❌ ผิดพลาดที่ 5: เลือกน้ำหนักผิด (ทั้งเบาเกิน–หนักเกิน)
น้ำหนักเบาไป = กล้ามไม่ถูกกระตุ้น / หนักเกิน = ฟอร์มพัง
- โดยเฉพาะคนที่มาฝึกใหม่ มักจะเลือกดัมเบลที่ “กลัวไม่ไหว” แล้วเล่นแบบไม่รู้สึกกล้ามเลย
- ตรงกันข้าม บางคนอยากไว ก็เล่นหนักจนต้องสั่น เหวี่ยง และใช้กล้ามเนื้ออื่นช่วย
✅ วิธีแก้ของโค้ช:
- ใช้หลัก “Fail in Form” คือเลือกน้ำหนักที่ทำให้เหนื่อยใน 8–12 ครั้ง โดยยังคุมฟอร์มได้ 100%
- ถ้าทำได้ 15 ครั้งแล้วไม่รู้สึกอะไรเลย → เบาไป
- ถ้าแค่ 5 ครั้งก็ต้องหยุดเพราะปวดหลัง → หนักเกิน
สาระน่ารู้จากงานวิจัย: ฟอร์มสำคัญกว่าน้ำหนัก
สาระน่ารู้สำหรับงานวิจัย: น้ำหนักมากไม่ได้แปลว่ากล้ามจะขึ้นไวเสมอไป
ปี | รายละเอียดการศึกษา | สิ่งที่ค้นพบ |
2020 | กลุ่มทดลอง 60 คน ฝึก Dumbbell Shoulder Press โดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม: ยกหนัก + ฟอร์มพัง VS น้ำหนักกลาง + ฟอร์มดี | กลุ่มที่ “ฟอร์มเป๊ะ” แต่ใช้แค่น้ำหนักกลาง กลับเพิ่มขนาดกล้ามไหล่มากกว่ากลุ่มที่ยกหนักแต่ฟอร์มไม่ดีถึง 15.2% ภายใน 6 สัปดาห์ |
2023 | กลุ่มผู้ฝึกอายุ 50+ ฝึก Shoulder Press แบบควบคุม | ลดความเสี่ยงการบาดเจ็บที่ข้อมือ-หัวไหล่ได้ถึง 31.7% |
3 กล้ามเนื้อที่ได้จาก Dumbbell Shoulder Press
พร้อมเทคนิคสร้างทรงสวยในแบบนักฟิตเนสหญิง
Dumbbell Shoulder Press ไม่ใช่แค่ท่า “ยกดัมเบลขึ้นบนหัว” ธรรมดา
แต่เป็นท่าหลักที่ใช้ “ปั้นทรงไหล่” ให้กลม มีมิติ และช่วยให้รูปร่างดูบาลานซ์อย่างชัดเจนค่ะ
กล้ามเนื้อหลักที่ทำงานใน Dumbbell Shoulder Press
ลำดับ | กล้ามเนื้อ | บทบาท |
1 | Deltoid (หัวไหล่) – โดยเฉพาะ หัวกลาง (lateral deltoid) และ หัวหน้า (anterior deltoid) | เป็นกล้ามเนื้อหลักที่ทำให้แขนสามารถกดขึ้นเหนือศีรษะ |
2 | Triceps Brachii (ด้านหลังต้นแขน) | ช่วยเหยียดข้อศอกให้แขนยืดตรงเวลาออกแรงดัน |
3 | Serratus Anterior (กล้ามเนื้อด้านข้างซี่โครง) | ช่วยประคองหัวไหล่ให้มั่นคง ไม่หลุดออกนอกแนวขณะดันดัมเบล |
เทคนิค “สร้างทรงสวย” จากท่านี้แบบโค้ชปุนิ่ม
โค้ชใช้เทคนิคเหล่านี้ในการเตรียมไหล่ก่อนขึ้นเวทีทุกเวทีเลยค่ะ เพราะไหล่ชัดเท่ากับหุ่นโดดเด่นทันที
เทคนิคที่ 1: “เล่นแบบแยกมุม” เพื่อเก็บไหล่ทุกหัว
คนทั่วไปฝึก Dumbbell Shoulder Press จะได้ไหล่หัวกลางเด่นเป็นหลัก
แต่ถ้าอยากได้ ทรงไหล่ที่กลมทั้งหัวหน้า–กลาง–หลัง ต้องปรับมุมแบบนี้ค่ะ:
มุมการเล่น | ผลลัพธ์ต่อกล้ามเนื้อ |
เอนหลังเล็กน้อย (ประมาณ 15–30°) | เน้นหัวหน้า (anterior deltoid) ชัดเจนมากขึ้น |
นั่งตรง 90° (มาตรฐาน) | โฟกัสหัวกลางเต็ม ๆ |
หันฝ่ามือเข้าหากัน (neutral grip) | ลดแรงกดข้อต่อ + ใช้กล้ามเนื้อไหล่ด้านหลังร่วมเล็กน้อย |
แนะนำ: สลับมุมแบบนี้ในแต่ละสัปดาห์ จะช่วยให้ไหล่โตทั่วถึงและบาลานซ์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เทคนิคที่ 2: “เล่นแบบ drop set” ปั้นทรงให้กลมสุดๆ
เทคนิคนี้โค้ชใช้ประจำช่วง “Final Week” ก่อนแข่งค่ะ
Drop Set คืออะไร?
คือการลดน้ำหนักดัมเบลลงเรื่อย ๆ หลังจากหมดแรงในเซตแรก แล้วฝืนเล่นต่อ
เช่น:
- เริ่มที่ 8 กก. → เล่นได้ 10 ครั้ง
- ลดเหลือ 6 กก. → เล่นต่ออีก 8 ครั้ง
- ลดอีกครั้งเหลือ 4 กก. → เล่นต่อจนสุดแรง
วิธีนี้จะทำให้กล้ามไหล่ถูกกระตุ้นหนักแบบ “เก็บทุกเส้นใยกล้าม” โดยไม่เสี่ยงบาดเจ็บ เพราะน้ำหนักเบาลงในช่วงท้าย
เทคนิคที่ 3: “เพิ่มความตึงระหว่างเซต” ด้วยการค้าง (Isometric Hold)
อีกหนึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ไหล่ทรงชัด โดยไม่ต้องยกหนัก คือการใช้เทคนิค Hold บนสุดของท่า ค้างไว้ 3–5 วินาที ก่อนลง
- ฝึกแค่ 2 เซตสุดท้ายของการเล่นเท่านั้น
- ความรู้สึกเหมือน “ไฟเบอร์กล้ามเนื้อโดนบีบแบบนาน” ทำให้มัดกล้ามชัดขึ้นมาก
สาระน่ารู้จากงานวิจัย
เทคนิคต่าง ๆ ที่โค้ชใช้ มีงานวิจัยรองรับด้วยนะคะ
รายงานวิจัย | สิ่งที่ค้นพบ |
ปี 2022 (กลุ่มผู้หญิงฝึกเวท อายุ 30–50 ปี จำนวน 90 คน) | ผู้ที่ฝึก Dumbbell Shoulder Press แบบสลับมุม (incline, neutral, 90°) มีการเติบโตของไหล่ทุกส่วนดีกว่ากลุ่มที่เล่นมุมเดียวถึง 19.7% |
ปี 2021 (ศึกษาเทคนิค Drop Set) | Drop Set ทำให้เกิด hypertrophy แบบเร่งรัด ได้มากกว่าแบบเล่นปกติถึง 25% ภายใน 6 สัปดาห์ และลดอาการปวดกล้ามเนื้อหลังเล่นได้เร็วกว่าด้วย |
ปี 2020 (EMG กล้ามเนื้อไหล่) | การ “ค้างบนสุดของท่า” กระตุ้นกล้ามเนื้อ anterior deltoid เพิ่มขึ้นถึง 31% เมื่อเทียบกับการไม่ค้างเลย |
ผลลัพธ์ที่เห็นได้จริงจากการฝึก Dumbbell Shoulder Press อย่างสม่ำเสมอ
ประสบการณ์จริงจากแชมป์ฟิตเนสหญิงระดับประเทศ + งานวิจัยยืนยัน
โค้ชปุนิ่มพูดจากใจเลยค่ะ:
ถ้าให้เลือกแค่ 3 ท่าที่ต้องเล่นประจำทุกสัปดาห์
Dumbbell Shoulder Press คือท่าที่ต้องติดอันดับแน่นอน
เพราะนอกจากจะ “เห็นผลเร็ว” ยังเป็นท่าที่ “ช่วยปรับทรงร่างกาย” ได้ชัดที่สุดในบรรดาท่าไหล่
✅ ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเมื่อฝึกต่อเนื่อง 6–12 สัปดาห์
- ทรงไหล่กลมสวยขึ้นอย่างชัดเจน
- หัวไหล่เริ่ม “นูน” ขึ้น ไม่แบนติดแขน
- ทำให้รูปร่างด้านข้างดูมีมิติ เหมาะมากสำหรับผู้หญิงที่อยากได้ทรงนาฬิกาทราย
- ใส่เสื้อยืดธรรมดาก็ดูมีรูปร่างดีขึ้นทันที
- แกนลำตัวแข็งแรงขึ้น
- โดยเฉพาะถ้าฝึกท่านี้แบบ “ยืน” จะช่วยให้ แกนกลางลำตัว (core) ทำงานมาก
- ลดอาการหลังแอ่น + เพิ่มการทรงตัวในชีวิตประจำวัน เช่น การเดิน วิ่ง และนั่งทำงานนานๆ
- แขนกระชับ ไหล่ไม่ล้า
- กล้ามเนื้อ Triceps และหัวไหล่ที่แข็งแรงช่วย “รองรับแรง”
- เวลายกของสูง นั่งพิมพ์งาน หรืออุ้มของ – จะไม่รู้สึกว่าไหล่ล้าหรือปวดต้นแขนง่ายอีกต่อไป
- เสริมบุคลิกภาพ – เด่นตั้งแต่ท่ายืน
เวลาที่โค้ชปุนิ่มเดินขึ้นเวทีประกวด สิ่งที่กรรมการมองทันทีคือ “ช่วงไหล่และหลัง”
ท่านี้ช่วยให้เดินหลังตรง เปิดไหล่ และยืนท่าตรงได้มั่นใจขึ้นมาก
สาระน่ารู้จากงานวิจัย
ดัมเบลเบาๆ แต่ผลลัพธ์ไม่ธรรมดา!
ปี | รายละเอียดงานวิจัย | สิ่งที่ค้นพบ |
2023 | ผู้หญิง 100 คน ฝึก Dumbbell Shoulder Press ต่อเนื่อง 3 วัน/สัปดาห์ เป็นเวลา 12 สัปดาห์ | กลุ่มทดลองเพิ่มความแข็งแรงของหัวไหล่เฉลี่ย 27.3% และเพิ่มขนาดกล้ามเนื้อหัวไหล่เฉลี่ย 10.2% โดยไม่มีอาการบาดเจ็บใด ๆ |
2021 | เปรียบเทียบการฝึกดัมเบล vs. เครื่องแมชชีน | กลุ่มที่ฝึกดัมเบลมีการกระตุ้นกล้ามเนื้อ deltoid และ triceps มากกว่าการใช้เครื่องถึง 19.5% เนื่องจากต้องใช้การควบคุมสมดุลร่วมด้วย |
2020 | ผู้ฝึกวัย 50+ ฝึก Shoulder Press แบบเบา–แต่สม่ำเสมอ | พบว่าไหล่ทรงกลมขึ้น + ความสามารถในการยกของในชีวิตประจำวันดีขึ้นถึง 40% ภายใน 8 สัปดาห์ โดยไม่มีอาการบาดเจ็บสะสม |
คำแนะนำจากประสบการณ์โค้ช
“ฝึกแค่ 3 วันต่อสัปดาห์ ท่านี้สามารถเปลี่ยนบุคลิก เปลี่ยนทรงไหล่ และเปลี่ยนความมั่นใจของคุณได้”
– โค้ชปุนิ่ม แชมป์ Mr. Thailand 2025 และเทรนเนอร์หญิงประจำ Smartgym
ตารางแผนฝึกสำหรับมือใหม่
สัปดาห์ | จำนวนครั้งต่อสัปดาห์ | เซต/ครั้ง | หมายเหตุ |
สัปดาห์ 1–2 | 2 ครั้ง | 3 เซต × 10–12 ครั้ง | เน้นฟอร์มให้เป๊ะก่อน |
สัปดาห์ 3–6 | 3 ครั้ง | 4 เซต × 8–10 ครั้ง | เริ่มใช้เทคนิค hold หรือ drop set |
สัปดาห์ 7–12 | 3 ครั้ง | 4–5 เซต × 8–12 ครั้ง | เล่นผสม incline / neutral grip เพื่อปั้นทุกมุม |
3 เครื่องที่ใช้ฝึก Dumbbell Shoulder Press ได้ (และเครื่องที่ใช้แทนได้)
แนะนำโดยโค้ชปุนิ่ม – เทรนเนอร์ที่ฝึกจริงมาแล้วทั้งแบบบ้าน ๆ และในยิมมืออาชีพ
“ไม่ต้องมีเครื่องแพง ก็ฝึก Dumbbell Shoulder Press ได้”
สิ่งสำคัญไม่ใช่ ‘เครื่องที่ใช้’ แต่คือ ‘วิธีควบคุมท่าให้ถูกต้อง’
ถ้าเข้าใจแก่นของการดันน้ำหนักขึ้นด้วยไหล่ ยังไงคุณก็พัฒนาได้ค่ะ
✅ เครื่องที่ 1: ม้านั่งปรับระดับ (Adjustable Bench)
เป็นเครื่องเบสิกที่โค้ชใช้เองเกือบทุกวันตอนฟิตตัวก่อนแข่ง
- ใช้คู่กับดัมเบลทั่วไป → ปรับพนักพิงให้ตั้งประมาณ 75–90 องศา
- รองรับหลังและช่วยให้โฟกัสการดันจากไหล่จริง ไม่ใช้แรงจากเอวหรือหลังล่าง
ข้อดี:
- เหมาะกับผู้เริ่มต้น เพราะช่วยป้องกันการแอ่นหลัง
- สามารถเล่นแบบ incline ได้ในช่วงที่อยากโฟกัสไหล่หน้ามากขึ้น
หากไม่มี:
- ใช้เก้าอี้แข็งแบบมีพนักพิงที่ไม่เอนมาก หรือพิงผนังที่มั่นคงก็ได้ผลใกล้เคียง
สามารถเลือกดู ดัมเบลและม้านั่ง ของ Thaigymstuffs ได้ที่นี่
✅ เครื่องที่ 2: Smith Machine
โค้ชใช้สลับกับดัมเบลเวลาเน้นความปลอดภัย และต้องการเพิ่มน้ำหนัก
- จุดเด่นคือรางนำทิศทาง ทำให้ควบคุมแกนการเคลื่อนไหวได้ง่ายขึ้น
- ช่วยให้ยกน้ำหนักได้มากกว่าแบบดัมเบล เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องการทรงตัว
ข้อดี:
- เหมาะกับคนที่มีอาการบาดเจ็บช่วงไหล่ หรือเริ่มฝึกหลังหยุดเล่นไปนาน
- ใช้เล่นได้แม้ฝึกคนเดียว
หากไม่มี:
- ฝึกแบบใช้ยางยืดแนวตั้ง (Resistance Band Overhead Press) แทนเพื่อเลียนแบบแรงต้าน
สามารถเลือกดู สมิทแมชชีน ของ Thaigymstuffs ได้ที่นี่
✅ เครื่องที่ 3: Shoulder Press Machine (เครื่องกดไหล่แบบมีเบาะรอง)
เครื่องนี้มีในยิมแทบทุกแห่ง และโค้ชใช้บ่อยช่วงรีดน้ำหนักก่อนแข่ง
- ทิศทางตายตัว → ช่วยให้มือใหม่โฟกัสที่การ “เกร็งกล้ามเนื้อ” มากกว่าการบาลานซ์
ข้อดี:
- ควบคุมน้ำหนักได้แม่นยำ เหมาะกับการทำ Drop Set หรือเล่นแบบ High Volume
- เหมาะกับวันฝึกหนักที่ต้องการ “ฝืนกล้าม” โดยไม่เสี่ยงบาดเจ็บ
หากไม่มี:
- เล่นท่าดันไหล่กับยางยืดแบบนั่ง หรือใช้ขวดน้ำ 1–2 ลิตรแทนดัมเบลก็ยังได้ค่ะ
ตารางสรุป: เครื่องที่ใช้ฝึก Dumbbell Shoulder Press + ทางเลือกถ้าไม่มีเครื่อง
เครื่องหลัก | เหมาะกับใคร | วิธีใช้แทนถ้าไม่มีเครื่อง |
ม้านั่งปรับระดับ | มือใหม่-ระดับกลาง | เก้าอี้แข็ง + ผนังเรียบ |
Smith Machine | คนต้องการเล่นหนัก/ฝึกคนเดียว | Resistance Band Overhead Press |
Shoulder Press Machine | มือใหม่ / วันฝึกหนัก | ดัมเบล + ท่านั่งมั่นคง หรือยางยืดแบบพาดเสา |
“เครื่องมือมีไว้เสริม แต่ความเข้าใจในท่าและกล้ามเนื้อ คืออาวุธหลักของคุณ”
– โค้ชปุนิ่ม แชมป์ Thailand Open Masters Games 2025
ท่านี้เหมาะกับใคร?
จากโค้ชปุนิ่ม – ผู้เทรนคนวัย 20 ถึง 60+ มาแล้วนับไม่ถ้วน
“ไม่ว่าอายุจะเท่าไร ถ้าคุณยังอยากลุกจากเตียงโดยไม่ปวดไหล่ ยังอยากยกของได้โดยไม่สะดุ้ง Dumbbell Shoulder Press คือคำตอบค่ะ”
✅ มือใหม่ที่ไม่เคยฝึกเวทมาก่อน
- ท่านี้คือหนึ่งใน “ท่าพื้นฐานที่ปลอดภัย”
- ใช้เพียงดัมเบลหรือของมีน้ำหนักเล็กน้อย
- สามารถนั่งฝึกได้ ไม่ต้องกลัวเสียการทรงตัว
- เหมาะกับคนที่เริ่มเข้าสู่โลกของการออกกำลังกาย
โค้ชปุนิ่มเคยเทรนคุณแม่วัย 59 ปี เริ่มจากแค่ขวดน้ำ 500 มล. ตอนนี้ดัมเบล 3 กก.ได้สบาย!
✅ ผู้หญิงที่อยากหุ่นทรงนาฬิกาทราย
- การมี ไหล่ชัด จะทำให้ เอวดูเล็ก โดยอัตโนมัติ
- ไหล่กลมจะช่วยให้ “ช่วงบน–ล่างของรูปร่างสมดุล”
- ใส่ชุดไหนก็สวยขึ้น ดูมั่นใจขึ้น
“หุ่นจะเข้าทรง ไม่ใช่เพราะซิทอัพอย่างเดียว แต่ต้องเริ่มจากทรงไหล่ด้วย”
✅ นักวิ่ง นักปั่น หรือสาย cardio
- กล้ามไหล่และแขนที่แข็งแรงช่วยให้ เหวี่ยงแขนทรงพลังขึ้น
- ลดโอกาสบาดเจ็บไหล่และหลังบน จากการเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ
- เสริมความมั่นคงของท่าทางโดยรวม
✅ ผู้สูงวัยที่อยากรักษาความสามารถในการยกของ
- ท่านี้ช่วยให้ “ไหล่ – แขน – หลังบน” แข็งแรง
- ช่วยยกของในชีวิตประจำวัน เช่น ขวดน้ำ, ถุงของ, เปิดตู้สูง
- ลดโอกาสการปวดต้นคอหรือหัวไหล่จากกิจวัตรประจำวัน
✅ ผู้ประกวดฟิตเนส / คนที่อยากปั้นหุ่นจริงจัง
- เป็นท่า “ขาดไม่ได้” สำหรับ การสร้างมิติช่วงบน ให้สมส่วน
- บังคับฝึกแทบทุกเวที เพราะคือดัชนีวัดความสมดุลของรูปร่าง
- เป็นท่าที่ใช้ทั้งตอน bulk และตอน cut (รีดกล้ามชัด)
สาระน่ารู้จากงานวิจัย
Dumbbell Shoulder Press มีผลดีต่อทุกวัย ไม่ใช่แค่สายเพาะกาย
ปี | รายละเอียดการศึกษา | สิ่งที่ค้นพบ |
2022 | ผู้หญิงวัย 40–65 ปี ฝึก Dumbbell Shoulder Press 2–3 วัน/สัปดาห์ เป็นเวลา 10 สัปดาห์ | เพิ่มความสามารถในการยกของในชีวิตประจำวันขึ้น 38% และลดความเจ็บหัวไหล่จากพฤติกรรมซ้ำ ๆ ได้ถึง 24.1% |
2020 | กลุ่มผู้ฝึกอายุ 55+ ฝึกเวทเบา ๆ | การฝึกท่า shoulder press ด้วยน้ำหนักเบาเป็นประจำ ช่วยเพิ่มมวลกล้ามเนื้อไหล่ + ลดภาวะกล้ามเนื้อลีบในผู้สูงวัยได้อย่างมีนัยสำคัญ |
2019 | ผู้หญิงสาย cardio ที่ฝึกเวทร่วมด้วย | Dumbbell Shoulder Press เสริมพลังการเหวี่ยงแขนในการวิ่ง และลดแรงกระแทกที่ข้อต่อหัวไหล่ได้มากขึ้นถึง 17% เทียบกับคนที่ไม่ฝึกเวทเลย |
ฝึกท่า Dumbbell Shoulder Press ร่วมกับอะไร เพื่อเห็นผลเร็วที่สุด?
สูตรการฝึกแบบแชมป์ – ที่โค้ชปุนิ่มใช้ก่อนขึ้นเวที
“เล่น Shoulder Press อย่างเดียวได้กล้ามไหล่แน่ค่ะ
แต่ถ้าอยากให้มันชัดเร็ว โตกลม และบาลานซ์สวยใน 6–8 สัปดาห์
ต้องฝึก ‘เป็นระบบ’ ร่วมกับท่าเสริมให้กล้ามเนื้อทำงานครบทุกมิติ”
– โค้ชปุนิ่ม
- ฝึกคู่กับท่า Side Lateral Raise เพื่อ “ขยายข้าง” ให้กลมเร็ว
Dumbbell Shoulder Press = ดันขึ้น (แนวดิ่ง)
Side Raise = กางออก (แนวข้าง)
สองท่านี้รวมกันเหมือน “บีบ + ปั้น” กล้ามไหล่ให้ทั้งขนาดและความกลม
- โค้ชมักฝึกเป็น Super Set
- กดดัมเบล 10 ครั้ง → กางออกข้าง 12 ครั้ง → พัก 45 วิ → ทำใหม่ 3–4 เซต
เทคนิคนี้ใช้ได้ผลมากในการเร่งกล้ามไหล่ช่วง pre-contest หรือช่วงที่ต้องรีบรีดทรง
- เสริมด้วย Rear Delt Fly หรือ Face Pulls เพื่อ “เก็บหลังไหล่”
หลายคนฝึกไหล่หน้า–ข้าง แต่ลืมไหล่หลัง → หุ่นจะดู ‘ล้มหน้า’
- Rear Delt Fly จะช่วยดึงให้ “หัวไหล่ไม่ทิ้ง” และ “ทรงด้านข้างดูตรงขึ้น”
- Face Pull จะเสริม postural muscle ช่วยให้บุคลิกดีขึ้นขณะยืนบนเวทีหรือถ่ายรูป
โค้ชฝึกทุกสัปดาห์ โดยเฉพาะช่วงลดน้ำหนัก เพราะเวลาน้ำหนักลง ไหล่จะเล็กลงตาม ถ้าไม่มีไหล่หลัง → หุ่นจะไม่สวย
- ปิดท้ายด้วย Plank หรือ Farmer’s Walk เพื่อเสริม “แกนกลาง”
เพราะ Dumbbell Shoulder Press ใช้ core มากในการทรงตัว
- Plank: ช่วยให้เวลายกดัมเบล “ลำตัวนิ่ง – แรงไม่รั่ว”
- Farmer’s Walk: ฝึกการเกร็งไหล่–แขน–core พร้อมกัน เหมาะมากกับช่วง final cut
ตารางฝึกแบบเร่งกล้ามไหล่ใน 6 สัปดาห์
สูตรโค้ชปุนิ่มสำหรับคนมีเวลา 2–3 วันต่อสัปดาห์
วันฝึก | ท่า | จำนวนเซต × ครั้ง | หมายเหตุ |
วันไหล่ (หลัก) | Dumbbell Shoulder Press | 4 × 8–12 | เน้นค้างบนสุด 1 วินาที |
Side Lateral Raise | 3 × 12–15 | ทำทันทีหลัง Shoulder Press | |
Rear Delt Fly | 3 × 12 | เบาแต่แม่นยำ | |
วันรวม (เสริม) | Face Pull | 3 × 15 | เสริม postural control |
Farmer’s Walk | 3 เซต × 30 วินาที | เน้นการเกร็งไหล่–core | |
Plank | 2 เซต × 1 นาที | เสริมความนิ่งของลำตัว |
คำส่งท้ายจากโค้ช
“Dumbbell Shoulder Press คือท่าที่โค้ชไม่เคยตัดออกจากตารางเลย ไม่ว่าปีไหน อายุเท่าไร หรืออยู่ในช่วง Bulk หรือ Cut
เพราะมันคือ ‘หัวใจของทรงไหล่’ และไหล่ก็คือกรอบหน้าอกของคุณบนเวทีชีวิตค่ะ”
พร้อมแล้วที่จะมีไหล่สวยคมชัดแบบนักกีฬา? เลือกชมดัมเบลคุณภาพ หรือ อุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายอื่นๆ ที่ Thai Gym Stuffs เพื่อเริ่มต้นการเดินทางของคุณได้เลย!