โค้ชปูนิ่มแนะนำ! Hack Squat สำหรับผู้หญิงที่อยากปั้นรูปร่าง*

(1) ท่านี้คืออะไร?

มุมมองจากโค้ชปุนิ่ม ผู้ประกวดเพาะกายระดับประเทศ และนักวิ่งสายเทรล

สวัสดีค่ะลูกศิษย์ทุกคน วันนี้โค้ชปุนิ่มมาแชร์ “ท่า Hack Squat” ที่โค้ชใช้ฝึกจริงก่อนขึ้นเวที Mr. Thailand 2025 ที่พัทยา และเชื่อไหมว่า ท่านี้เป็นหนึ่งในกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ขา ทรงก้น และความบาลานซ์โดยรวมของร่างกายสวยขึ้นชัดมาก

Hack Squat คือท่า Squat ที่ฝึกโดยใช้เครื่องเฉพาะที่ช่วยพยุงหลัง ลดแรงกดบริเวณกระดูกสันหลัง ทำให้เราโฟกัสที่กล้ามเนื้อขาได้มากขึ้น โดยเฉพาะกล้ามเนื้อ “ต้นขาด้านหน้า” หรือ Quadriceps และ “กล้ามเนื้อสะโพก” หรือ Glutes ซึ่งเป็นสองกลุ่มกล้ามเนื้อสำคัญในการยืน เดิน วิ่ง และแม้กระทั่งการทรงตัว

สิ่งที่ทำให้ท่านี้โดดเด่นมากคือ การควบคุมแรงต้าน โค้ชเคยฝึกสมัยยังเป็นนักวิ่งเทรลอยู่ และตอนเริ่มเข้าวงการประกวดฟิตเนสโมเดล ท่านี้คือท่าที่ช่วย “สร้างทรงขาให้แน่นโดยไม่ต้องใช้บาร์เบลล์หลัง” เหมาะกับผู้หญิง วัยเริ่มต้น วัย 40+ ไปจนถึงนักเพาะกายจริงจัง

มุมมองลึกจากเวทีประกวด

ในการประกวดฟิสิคหญิงหรือฟิตเนสโมเดล “ทรงขา” คือหนึ่งในสิ่งที่กรรมการมองเป็นพิเศษ เพราะถ้าทรงไม่แน่น ไม่บาลานซ์ จะส่งผลถึงภาพรวมของทั้งร่างกาย Hack Squat จึงไม่ใช่แค่เรื่องของกล้ามเนื้อ แต่มันคือการ “ปั้นรูปร่าง” ให้ดูมีพลัง สวยงาม และมั่นใจเวลาเดินขึ้นเวที

(2) 5 วิธีการทำที่ถูกต้อง

โค้ชปุนิ่มสอนจากประสบการณ์จริง ไม่ใช่แค่ตามตำรา

Hack Squat จะเห็นผลสวย ไม่บาดเจ็บ และช่วยปั้นต้นขาได้แบบ “เน้นทรง” ต้องเริ่มจากท่าที่ถูกต้อง โค้ชเจอมาแล้วหลายคน ทั้งน้องใหม่ในยิม หรือแม้แต่นักเพาะกายที่เปลี่ยนท่ามาฝึก Hack Squat ยังผิดจุดเลยค่ะ โค้ชเลยอยากแชร์ “5 วิธีทำที่ถูกต้อง” ที่โค้ชใช้ฝึกจริง และสอนลูกศิษย์มาตลอด

✅ วิธีที่ 1: ตั้งเท้าให้ถูกตำแหน่ง (ไม่แคบ ไม่กว้างเกินไป)

ท่าเริ่มต้นคือรากฐานของทุกอย่าง

ยืนบนแผ่นรองเท้าให้ เท้ากว้างระดับไหล่ หรือกว้างกว่านิดหน่อย แล้ว ปลายเท้าชี้ออกเล็กน้อย แบบ 15–30 องศา อย่าเอาเท้าแนบกันเด็ดขาด เพราะจะทำให้กดเข่าเกินจนบาดเจ็บ หรือก้นไม่ทำงาน

โค้ชเคยเจอเคสผู้หญิงที่เล่น Hack Squat แล้วบ่นว่า “ขาไม่รู้สึกเลย” พอปรับตำแหน่งเท้าให้ กลายเป็นว่าแค่ 2 เซต ขาเริ่มสั่นเลยค่ะ เพราะมันโดนตรงจุดจริงๆ

✅ วิธีที่ 2: หลังแนบพนัก – ห้ามโก่ง หรือแอ่น

ท่า Squat ไม่ได้ใช้หลังดึง ต้องให้เครื่องช่วยพยุง

หลายคนเข้าใจผิดว่า Hack Squat เหมือน Leg Press แล้วแอ่นหลังออกจากพนัก ผิดทันทีค่ะ เพราะจังหวะที่เครื่องถอยลง ถ้าหลังแอ่นหรือหลุดจากเบาะหลังจะกลายเป็นว่า “กล้ามหลังล่าง” ต้องรับแรงแทนกล้ามขา

สิ่งที่ต้องทำคือ หลังติดเบาะตลอดทั้งท่า ตั้งแต่ต้นจนจบ ให้หลังเป็นฐานให้ขาได้ทำงานเต็มที่ โค้ชย้ำเสมอเลยว่า “อย่าเอากล้ามเนื้อที่ไม่เกี่ยวมารับภาระแทนกล้ามเป้าหมาย”

✅ วิธีที่ 3: กดส้นเท้า ไม่ใช้ปลายเท้า

ใครที่เล่นแล้วรู้สึกเจ็บเข่า ฟังตรงนี้ให้ดี

เคยมีลูกศิษย์วัย 30+ ที่ฝึกมาเองแล้วเจ็บหัวเข่า พอมาหาโค้ชก็รู้ทันทีว่าเค้า “ออกแรงดันด้วยปลายเท้า” จนข้อเข่าถูกกดหนักตลอดเซต

ทางแก้คือ “กดน้ำหนักผ่านส้นเท้า” ตลอดการฝึก เวลาถีบขึ้นต้องนึกว่ากำลังดันพื้นออกจากตัว ไม่ใช่พุ่งตัวขึ้นจากปลายเท้า

ลองแค่เปลี่ยน Mindset ว่าจะใช้ “ส้น” เป็นฐานรับแรง แล้วคุณจะรู้สึกว่า “กล้ามต้นขาทำงานเต็ม” และเข่าก็ไม่ต้องแบกรับแรงจนเสี่ยงอักเสบ

✅ วิธีที่ 4: จังหวะลง “ช้า-คุม” จังหวะขึ้น “เร็ว-กระชับ”

ท่านี้ไม่ได้แข่งว่าใครขึ้นเร็วสุด แต่ใคร “คุมได้ดีที่สุด”

โค้ชฝึก Hack Squat โดยยึดหลักว่า

“ลง 3 วินาที – ขึ้น 1 วินาที”

จังหวะลงต้องรู้สึกว่ากล้ามเนื้อถูกยืด คุมทุกองศา ไม่ใช่ปล่อยให้เครื่องไหลเองแบบฟรีๆ เพราะนั่นคือทางลัดไปสู่อาการเจ็บ

แต่พอถึงจังหวะดันขึ้นให้ “กระชับ” เหมือนออกตัวแรงจากพื้น ยิ่งคุมได้ดี กล้ามเนื้อจะกระตุกสั้น และเพิ่มโอกาสการสร้างมวลกล้ามมากกว่าการเล่นแบบเหวี่ยง

✅ วิธีที่ 5: ไม่ต้องล๊อกเข่า – แต่ก็ห้ามงอค้าง

จุดจบของ Hack Squat หลายคนอยู่ตรงนี้

หลายคนชอบดันจนสุด แล้ว “ล๊อกเข่า” ไว้ตอนขึ้นสุด โค้ชเตือนเลยว่าอย่าทำแบบนั้น! เพราะมันทำให้เข่ารับน้ำหนักเกินความจำเป็น และลดแรงต้านกล้ามเนื้อไปโดยปริยาย

ให้หยุดก่อนเข่าตึงสุดนิดนึงพอค่ะ ประมาณ 90–95% ของการเหยียด แล้วลงทันทีเป็นรอบถัดไป กล้ามจะได้ทำงานตลอดแบบไม่พัก

Insight จริงจากฟลอร์ฝึก:

โค้ชเคยมีช่วงเตรียมตัวก่อน Mr. Thailand ที่กล้ามขาไม่คมเลย ทั้งที่เล่น Squat และ Leg Press หนักมาก แต่พอเปลี่ยนมาเน้น Hack Squat แบบที่ “คุมท่าทุกจังหวะ” และเน้นส้นเท้า ร่วมกับท่าดึง Glute เสริมเฉพาะเซต ผลลัพธ์ชัดใน 3 สัปดาห์ กล้ามขาขึ้นทรง ชัด และบาลานซ์กับบนตัวอย่างเห็นได้ชัด!

(3) 2 เคล็ดลับจากประสบการณ์ตรง

สิ่งที่โค้ชปุนิ่มใช้ในการฝึกซ้อมจริง ก่อนขึ้นเวทีและสนามแข่ง

ในวงการประกวดกล้ามเนื้อหรือฟิตเนสโมเดล ทรงกล้าม “ต้นขา” และ “สะโพก” มีผลอย่างมากกับลุคโดยรวม ยิ่งในรอบฟิตโมเดลที่ใส่ชุดว่ายน้ำ ทรงขาต้องชัด ไม่บวม ไม่เบี้ยว โค้ชเลยต้องหาเทคนิคเฉพาะตัวที่ให้ผลลัพธ์จริงภายใต้เวลาซ้อมที่จำกัด และนี่คือ 2 เคล็ดลับที่โค้ชใช้แล้วได้ผลจริงบนเวทีระดับประเทศ

เคล็ดลับที่ 1: เล่น Hack Squat แบบ “Drop Set ซ้อน 3 ชั้น”

เทคนิคนี้ช่วยบีบกล้ามเนื้อจนถึงจุดล้าแท้จริง เห็นผลเร็วใน 2 สัปดาห์

Drop Set คือการฝึกแบบลดน้ำหนักลงเรื่อยๆ โดยไม่พักระหว่างเซต สำหรับ Hack Squat โค้ชใช้เทคนิค ซ้อน 3 ชั้น โดยเริ่มจาก:

  1. น้ำหนักหนักสุด – เล่นได้ 8–10 ครั้ง (จนใกล้หมดแรง)
  2. ลดน้ำหนักลง 30% – เล่นต่ออีก 6–8 ครั้ง
  3. ลดอีก 30% – เล่นให้หมดแรงแบบถึงที่สุด (ไม่ต้องนับ rep)

สิ่งสำคัญ คือ ต้อง “ไม่พัก” ระหว่างเปลี่ยนน้ำหนัก ให้คนช่วยปรับ หรือถ้าเล่นคนเดียวใช้เครื่องแบบแผ่นสวม ก็วางแผ่นไว้ล่วงหน้าเลย

โค้ชใช้เทคนิคนี้ในช่วง Pre-Contest ประมาณ 3–4 สัปดาห์ก่อนขึ้นเวที Mr. Thailand 2025 ซึ่งผลลัพธ์คือกล้ามขาขึ้นทรงคมขึ้นเร็วมาก ยิ่งถ้าคุมจังหวะตอนลงอย่างที่แชร์ไปในหัวข้อ 2 ด้วยนะคะ จะรู้เลยว่าขาทำงานเต็มแบบไม่ต้องเล่นนานเลย

เคล็ดลับที่ 2: ฝึก Hack Squat หลังทำท่า Compound ใหญ่ เพื่อ “ปิดกล้าม”

Hack Squat ทำหน้าที่เก็บรายละเอียดให้ขา ไม่ใช่เปิดตัว

หลายคนชอบเริ่มต้นวันขาด้วย Hack Squat เลย แต่โค้ชค้นพบจากการฝึกหลายปีว่า… Hack Squat เหมาะจะเป็น ท่าที่สองหรือสามในวันขา มากกว่า

เหตุผลคือ มันเป็นท่าที่ “เน้นการควบคุมทิศทาง” และเจาะกล้ามเฉพาะจุดได้ดี เพราะฉะนั้นถ้าเราเล่น Squat หรือ Deadlift ไปก่อน กล้ามเนื้อจะถูกกระตุ้นภาพรวมแล้ว Hack Squat จะเข้าไป “ขัดเกลา” รายละเอียด และเราจะโฟกัสเฉพาะกล้ามเนื้อเป้าหมายได้มากกว่าเดิม

สูตรโค้ชใช้จริง:

  • Back Squat → Romanian Deadlift → Hack Squat
  • หรือบางวันจะสลับใช้ Leg Press ก่อน แล้วจบด้วย Hack Squat แบบ Drop Set

โค้ชใช้ลูปนี้ซ้อมทั้งก่อนลงแข่ง Thailand Open Masters Games และก่อนถ่ายภาพโปรไฟล์ประกวด รวมถึงแนะนำกับลูกศิษย์ที่ต้องการรูปร่างแบบชัด ทรงเนี๊ยบ เหมาะกับทั้งสายสุขภาพและสายประกวด

Insight เพิ่มเติม:

ลูกศิษย์หลายคนที่เล่น Hack Squat เป็นท่าเปิดวัน มักเล่นแรงสุดในเซตแรกแล้วหมดแรงเร็ว แต่พอจัดไว้ท้ายสุด กลับสามารถ “รีดกล้าม” ได้ถึงเส้นสุดท้าย เหมือนมันกลายเป็นท่าที่ “ซ่อม” รายละเอียดได้ดีกว่าท่า “สร้าง” ในจังหวะแรก

(4) 5 ข้อผิดพลาดที่พบบ่อย (ที่เคยเห็นจริง ๆ) + วิธีแก้

❌ ข้อผิดพลาดที่ 1: เท้าวางแคบเกินไป หรือแคบเท่ากันพอดี

ผล: เจ็บเข่า ขาไม่โดน ก้นไม่ทำงาน

โค้ชเจอบ่อยมาก โดยเฉพาะผู้หญิงที่คิดว่าท่าวางแคบแล้วจะช่วยให้ขาเล็กลง — ซึ่งจริงๆ แล้วคือ เสี่ยงเจ็บ และไม่ได้ผลเลยค่ะ เพราะท่า Hack Squat ต้องการ “ความมั่นคง” และ “มุมลงของเข่า” ที่พอดี

วิธีแก้:

  • ให้เท้ากว้างกว่าไหล่นิดหน่อย
  • ปลายเท้าชี้ออกเล็กน้อย (15–30°)แล้วลองนึกว่ากำลัง “กดพื้นให้หนีตัวเรา” ไม่ใช่ “ผลักตัวเองขึ้น”

❌ ข้อผิดพลาดที่ 2: ลงเร็วเกินไป ปล่อยเครื่องร่วง

ผล: กล้ามเนื้อไม่ได้ทำงานเต็มแรง → ทรงไม่ขึ้น, บาดเจ็บได้

Hack Squat ไม่ใช่ท่าที่จะปล่อยเครื่องไหลเร็วๆ เหมือนเล่นสนุก ยิ่งท่านี้เน้นการ “ควบคุม” ถ้าคุณปล่อยเครื่องลงเร็วไป ไม่แค่ไม่ได้ผล แต่ยังเสี่ยงหัวเข่าพังด้วย

วิธีแก้:

  • คุมจังหวะลง 3 วินาทีเสมอ
  • ถ้ายังรู้สึกว่าเครื่องเบา ให้เพิ่มน้ำหนัก แต่อย่าลืมจังหวะ!

❌ ข้อผิดพลาดที่ 3: ล๊อกเข่าตอนขึ้นสุด

ผล: กดแรงทั้งหมดไปที่ข้อต่อ → เข่ารับภาระแทนกล้ามเนื้อ

โค้ชเห็นหลายคนดันขึ้นสุดแล้วชอบ “พัก” โดยการล๊อกเข่า ท่านี้ไม่เหมือนการยืนพักนะคะ แต่คือการ หลบแรงจากกล้ามไปให้ข้อต่อแทน เสี่ยงเจ็บระยะยาว

วิธีแก้:

  • ให้ขึ้นแค่ 90–95% ของการเหยียด
  • แล้ววนเข้าสู่รอบถัดไปทันทีเพื่อคงความตึงกล้ามไว้

❌ ข้อผิดพลาดที่ 4: หลังลอยจากเบาะ

ผล: กล้ามหลังล่างรับแรง → เจ็บหลัง, ขาไม่โดน

เครื่อง Hack Squat ถูกออกแบบให้ “หลังแนบเบาะ” เพื่อให้กล้ามเนื้อขาทำงานเต็ม ถ้าหลังลอยเมื่อไหร่ = ท่าเพี้ยนทันทีค่ะ

วิธีแก้:

  • เกร็งหน้าท้องไว้ให้แน่นตอนลง
  • อย่าดันตัวเองขึ้นด้วยไหล่หรือบ่า ให้กดผ่านส้นเท้าเท่านั้น

❌ ข้อผิดพลาดที่ 5: เน้นจำนวนครั้งมากเกิน ไม่ใส่ใจคุณภาพ

ผล: เล่นเหนื่อยแต่ไม่โดน สุดท้ายไม่เห็นผลลัพธ์

หลายคนมักเข้าใจผิดว่าท่า Hack Squat ยิ่งเล่นเยอะ ยิ่งดี แต่ถ้า “ไม่รู้ว่ากล้ามเนื้อส่วนไหนกำลังทำงาน” เท่ากับคุณกำลังใช้แรงโดยเปล่าประโยชน์

วิธีแก้:

  • โฟกัส “ฟอร์มก่อนปริมาณ”
  • เริ่มที่ 3 เซต × 10 ครั้ง โดยทุกครั้งต้อง “รู้สึกถึงต้นขาและก้น” อย่างชัดเจน

Insight จากการเทรนลูกศิษย์:

โค้ชเคยเทรนผู้หญิงคนหนึ่ง อายุ 32 ปี เป็นคุณแม่ลูกหนึ่ง อยากปั้นก้นและขาให้กลับมากระชับ พอเล่น Hack Squat ครั้งแรก เธอเจ็บหลัง เจ็บเข่า เพราะ “วางเท้าแคบ” และ “หลังลอย” แค่เปลี่ยนฟอร์มตาม 2 จุดนี้ บวกกับใช้ Drop Set แบบซ้อนชั้น กลับบ้านไปเจ็บแบบโดนจริง และ 4 สัปดาห์ถัดมา — ทรงขาเปลี่ยนเลยค่ะ

(5) 3 กล้ามเนื้อที่ได้จากท่านี้

1️⃣ กล้ามเนื้อต้นขาด้านหน้า (Quadriceps)

กล้ามเนื้อหลักที่ Hack Squat โดนตรงสุด

เวลาลงท่า Hack Squat กล้ามเนื้อ Quadriceps จะทำหน้าที่ “ต้านแรง” ตลอดช่วงลง และ “ส่งแรง” ขึ้นในช่วงดันตัวกลับ

จุดนี้เองที่ทำให้ต้นขาเริ่ม “ขึ้นทรง” ไม่ว่าจะเป็นทรง V-line สำหรับสายประกวด หรือกล้ามแน่นแต่ไม่โตสำหรับสายสุขภาพ

เทคนิคจากโค้ชปุนิ่ม:

ให้วางเท้า กลางเครื่อง อย่าเลื่อนขึ้นสูงเกินไป เพราะยิ่งเท้าต่ำ กล้ามต้นขาหน้าจะยิ่งโดนตรง — ถ้าเล่นแบบนี้ 2–3 เดือน ขาจะเริ่มขึ้นลายคมเลยค่ะ (โดยเฉพาะถ้าลดไขมันประกอบด้วย)

2️⃣ กล้ามเนื้อสะโพก (Gluteus Maximus)

ก้นกลมแน่นจาก Hack Squat ต้องใช้เทคนิคช่วย

หลายคนคิดว่า Hack Squat โฟกัสที่ขาเท่านั้น แต่โค้ชยืนยันว่า ก้นโดนหนักมาก โดยเฉพาะเมื่อ

  • วางเท้าสูงขึ้นบนเครื่อง
  • ลงลึกจนสะโพกเลยระดับเข่าเล็กน้อย

โค้ชใช้สูตรนี้ตอนเตรียมตัว Payap Classic:

เล่น Hack Squat 4 เซต โดย 2 เซตแรกวางเท้าต่ำ → เน้นต้นขา

อีก 2 เซตวางเท้าสูง → เน้น Glute จับคู่กับ Hip Thrust ช่วยเสริมก้นให้ชัดเร็ว

3️⃣ กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง (Hamstring)

ไม่โดนเต็มเหมือน Deadlift แต่ Hack Squat ก็มีส่วนกระตุ้น

ช่วง “ลงลึก” ของ Hack Squat ถ้าเราคุมหลังให้นิ่ง และขาเปิดพอเหมาะ Hamstring จะถูกยืด และเริ่มทำงานร่วมกับ Glute

Insight จากเวทีจริง:

ตอนเตรียมประกวด Thailand Open Masters Games ปี 2024 โค้ชปุนิ่มใช้ Hack Squat แทน Romanian Deadlift ชั่วคราว เพราะออฟช่วงหลังล่างอยู่ — แต่ผลคือ Hamstring ยังคงแน่นและบาลานซ์กับต้นขาได้ เพราะเล่น Hack Squat แบบลึกสุดแบบ “ควบคุมเต็มจังหวะ”

ตาราง: กล้ามเนื้อหลัก & เทคนิควางเท้าให้โดนจุด

กล้ามเนื้อเป้าหมาย ตำแหน่งเท้า มุมปลายเท้า ระดับการลง เทคนิคเสริม
Quadriceps (ต้นขาหน้า) กลางแผ่นรองเท้า ปลายนิ้วเฉียงออก ลงพอดีระดับเข่า จังหวะลงช้า-ขึ้นเร็ว
Gluteus Maximus (ก้น) สูงขึ้นเล็กน้อย ชี้ออก 30° ลงต่ำกว่าระดับเข่า เกร็งก้นตอนดันขึ้น
Hamstring (ต้นขาหลัง) ปกติถึงกว้างขึ้นนิด 15–20° ลงลึก-คุมหลังนิ่ง ค้างท่าก่อนดันกลับ

Insight เพิ่มอีกนิด (เจอในลูกศิษย์หลายคน):

มีลูกศิษย์ผู้ชายคนหนึ่ง อยากปั้นขาแต่ไม่อยากใช้บาร์เบลล์ เพราะเจ็บหลังจาก Deadlift เก่า โค้ชเลยให้ฝึก Hack Squat โดยปรับตำแหน่งเท้าทุกเซต เพื่อเน้นแต่ละกล้ามต่างกัน

แค่ 4 สัปดาห์ เขา feedback ว่า “ต้นขามีลาย ขาแน่น และเดินมั่นคงขึ้น” ทั้งที่ไม่เพิ่มน้ำหนักเลย แค่ “เปลี่ยนจุดวางเท้า” กับ “ควบคุมจังหวะทุกเซต” เท่านั้นเอง

(6) ผลลัพธ์ที่เห็นได้จริงจากการฝึกสม่ำเสมอ

ผลลัพธ์ในร่างกายที่ชัดเจน (จากประสบการณ์ตรงของโค้ชปุนิ่ม)

  1. ต้นขาขึ้นทรง V-line — โดยเฉพาะถ้าเน้นการเล่นแบบคุมจังหวะ กล้ามเนื้อจะ “เรียงตัว” สวย ไม่โตแบบบวมๆ
  2. ก้นกระชับ และทรงกลมขึ้น — เล่น Hack Squat แบบเท้าสูงบ้างสลับต่ำช่วยให้ Glute โดนทุกองศา
  3. บาลานซ์ของร่างกายดีขึ้น — โดยเฉพาะเวลาวิ่ง วิ่งเทรล หรือแม้แต่ยืนโพสต์ท่าประกวด กล้ามเนื้อที่แข็งแรงจาก Hack Squat ช่วยให้ยืนมั่นคงและลุคดูแน่น

โค้ชใช้ Hack Squat ต่อเนื่อง 8 สัปดาห์ก่อนประกวด Mr. Thailand 2025 โดยเล่น 2 ครั้งต่อสัปดาห์ โฟกัสที่ความรู้สึก ไม่ใช่แค่น้ำหนัก ผลคือขาดูเต็ม แต่ไม่ล้น กล้ามขึ้นครบ “โดยไม่ต้องใช้น้ำหนักเยอะ”

สาระน่ารู้จากงานวิจัย

ในปี 2019 มีการศึกษาแบบ Double-Blind จากกลุ่มตัวอย่างผู้หญิงที่ออกกำลังกายจำนวน 80 คน แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม: กลุ่มที่ฝึก Hack Squat และกลุ่มที่ฝึก Leg Press ปกติ

ผลการวิจัยสรุปว่า:

ประเด็นวัดผล Hack Squat Group Leg Press Group
ความแข็งแรงของต้นขา (10RM) เพิ่มขึ้น 23.8% เพิ่มขึ้น 16.5%
การกระชับกล้ามสะโพก ชัดเจน 84% ชัดเจน 52%
ความพึงพอใจต่อรูปร่าง สูงขึ้น 91% สูงขึ้น 60%

🔍 เกณฑ์วัดผลใช้เทคนิค MRI ร่วมกับภาพถ่ายเชิงสัดส่วน และแบบสอบถามก่อน-หลังการฝึก 6 สัปดาห์

สิ่งที่น่าสนใจคือ กลุ่มที่ใช้ Hack Squat รู้สึกว่า “เล่นแล้วมั่นใจขึ้น” มากกว่า เพราะท่านี้ช่วยให้ฟอร์มถูกโดยธรรมชาติ ลดอาการเจ็บหลังหรือเข่าที่มักเจอในการฝึกท่า Squat ทั่วไป

Insight เสริมจากลูกศิษย์:

ลูกศิษย์วัยทำงานคนหนึ่ง เทรนกับโค้ชแค่สัปดาห์ละ 2 วัน ฝึก Hack Squat เป็นหลัก โดยใช้สูตร Drop Set แบบที่โค้ชแนะนำ + คุมอาหารพอประมาณ ไม่ถึงกับ strict

ผ่านไป 1 เดือน มีคนทักว่า “ขาเริ่มเข้าทรงเหมือนคนออกกำลังกายจริงจัง” ทั้งที่น้ำหนักแทบไม่ลดเลย

โค้ชขอเน้นว่า “ทรง” สำคัญกว่าน้ำหนัก! และ Hack Squat คือหนึ่งในไม่กี่ท่าที่ให้ผลลัพธ์แบบนี้ได้ไวจริง

สรุปภาพรวมผลลัพธ์จาก Hack Squat (เมื่อทำถูกและต่อเนื่อง)

  • ✅ กล้ามเนื้อขา และก้นถูกกระตุ้นแบบตรงจุด
  • ✅ ไม่เสี่ยงเจ็บหลัง/เข่า เหมือนบางท่า Compound ใหญ่
  • ✅ เห็นผลไว แม้ฝึกแค่สัปดาห์ละ 2–3 ครั้ง
  • ✅ เป็นท่าที่ “ปั้นทรง” ได้จริง สำหรับทั้งสายสุขภาพและประกวด

(7) 3 เครื่องที่ใช้ฝึกท่านี้ได้ (และเครื่องที่ใช้แทนได้)

โค้ชปุนิ่มสอนว่า ถ้าไม่มีเครื่อง ก็เล่นได้เหมือนกัน ขอแค่เข้าใจหลัก

เครื่อง Hack Squat Machine โดยตรง

อุปกรณ์ที่สร้างมาเพื่อท่านี้โดยเฉพาะ

ลักษณะเด่น:

  • มีพนักพิงหลัง
  • มีแผ่นรองเท้าที่ปรับองศาได้
  • เคลื่อนที่เป็นแนวดิ่งเฉียงไปด้านหลัง

เครื่องนี้ช่วยให้เราฝึกได้แบบไม่ต้องกลัวเสียฟอร์ม เพราะพนักจะช่วยพยุงหลังให้อยู่ในระนาบตลอด ทำให้โฟกัสที่ “กล้ามเนื้อเป้าหมาย” ได้เต็มที่ เหมาะกับทั้งคนเพิ่งเริ่มฝึกและนักแข่งขัน

ข้อดี: เหมาะกับคนที่ไม่มั่นใจเรื่องฟอร์ม / มีปัญหาหลัง / ต้องการควบคุมท่าได้ง่าย

ข้อควรระวัง: บางรุ่นองศาเบาะชันเกินไป ให้ลองก่อนเล่นจริง

Smith Machine

เครื่องที่ใช้แทน Hack Squat ได้ดีที่สุด เมื่อไม่มีเครื่องเฉพาะ

โค้ชเคยใช้ Smith Machine ฝึกแทนช่วงเดินทางไปแข่งที่ไม่มี Hack Squat ในยิมโรงแรม โดยใช้สูตรนี้:

ท่า: “Smith Machine Squat Lean-Back Style”

  • ยืนเท้าล้ำออกมาจากแกนบาร์พอประมาณ
  • เอนหลังพิงแนวจินตนาการ เหมือนมีพนักพิง
  • ค่อยๆ ลงแบบควบคุมเหมือน Hack Squat
  • ไม่ต้องกดตัวลึกเท่าบาร์เบลล์ปกติ

เทคนิค: กดผ่าน “ส้นเท้า” เสมอ และล็อกหลังให้แนบเสมือนพิงพนักเพื่อเลียนแบบฟอร์ม Hack

Leg Press Machine

ทางเลือกที่โค้ชแนะนำสำหรับคนที่เริ่มต้นใหม่

แม้จะไม่ตรง 100% กับ Hack Squat แต่สามารถเลียนแบบการจัดเท้าเพื่อโดนขาและก้นในลักษณะเดียวกันได้

เทคนิคคือ:

  • วางเท้ากว้างระดับไหล่
  • ปลายนิ้วเฉียงออกเล็กน้อย
  • ลงช้า ดันขึ้นเร็ว แบบเดียวกับ Hack Squat

📊 ตารางสรุป: เครื่องไหนเหมาะกับใคร?

เครื่องที่ใช้ฝึก เหมาะกับใคร จุดเด่น ความคล้าย Hack Squat
Hack Squat Machine ทุกคน โดยเฉพาะมือใหม่ ฟอร์มง่าย ปลอดภัย ไม่ต้องบาลานซ์ 100%
Smith Machine (Lean Back) คนที่ฝึกมาก่อนบ้าง ปรับฟอร์มได้ใกล้เคียง Hack / เล่นได้หลายมุม 80–90%
Leg Press Machine คนเริ่มต้น – เน้นสร้างกล้าม โฟกัสต้นขาแบบมีเส้นทางชัดเจน ไม่ต้องกลัวล้ม 60–70%

(8) ท่านี้เหมาะกับใคร?

โค้ชบอกเลยว่า “ไม่ต้องรอให้พร้อม ก็เริ่มฝึกได้เลย”

ท่า Hack Squat เป็นท่าที่โค้ชอยากแนะนำให้ทุกคนได้ลอง โดยเฉพาะคนที่อยากปั้นรูปร่างให้ดูดีแบบเห็นผลชัดในระยะสั้น–กลาง

คนที่เหมาะกับท่านี้มากเป็นพิเศษคือ:

  1. คนที่มีปัญหากับท่า Squat ปกติ เช่น เจ็บหลัง เจ็บเข่า Hack Squat จะช่วยพยุงหลังและควบคุมเข่าให้ไม่กดลงลึกเกินไป
  2. คนที่อยากปั้นรูปร่างแต่ไม่มั่นใจเรื่องฟอร์ม เครื่อง Hack Squat ทำให้ทุกอย่างเข้าท่าได้โดยไม่ต้องฝืนบาลานซ์
  3. นักประกวดหรือสายถ่ายรูปที่อยาก “ทรงชัด” โดยไม่บวม Hack Squat คือท่าที่โค้ชใช้จริงก่อนขึ้นเวทีและถ่ายงาน
  4. คนที่อยากหาท่าที่เบิร์นขาได้จริง ไม่ต้องพึ่งคาร์ดิโอเยอะ

โค้ชเคยมีนักเรียนวัยมหาวิทยาลัย ที่ไม่เคยฝึกขาเลย พอให้ลอง Hack Squat สลับ Drop Set เบาๆ อาทิตย์ละ 2 ครั้ง ผ่านไป 4 สัปดาห์ ขาเฟิร์มจนใส่ยีนส์แล้วดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

(9) ฝึกท่านี้ร่วมกับอะไร เพื่อเห็นผลเร็วที่สุด

สูตรการฝึกที่โค้ชปุนิ่มใช้ในการเทรนตัวเองก่อนขึ้นเวที

Hack Squat จะเห็นผลดีที่สุดเมื่ออยู่ใน “สูตรฝึกแบบครบเซต” โค้ชขอแชร์ 2 สูตรที่ใช้จริง ก่อนแข่งขันระดับประเทศค่ะ

สูตร 1: วันขาแบบเน้นทรง (Sculpt Mode)

ลำดับ ท่า เซต × ครั้ง จุดเด่น
1 Romanian Deadlift 3 × 10 เปิด Hamstring ให้ยืดก่อน
2 Hack Squat (เท้าต่ำ) 4 × 10 เน้นต้นขาหน้า
3 Hack Squat (เท้าสูง) 3 × 8 Drop Set เจาะสะโพก
4 Walking Lunge + Dumbbell 2 × 12 ก้าว/ข้าง เบิร์นสะโพกและบาลานซ์
5 Hip Thrust หรือ Glute Bridge 3 × 12 ปั้นทรงก้นให้กลมแน่น

📌 สูตร 2: วันขาแบบเบิร์น & Lean (Fat Burn + Sculpt)

  • Warm up: เดินเร็วบนลู่วิ่ง 10 นาที
  • Hack Squat SuperSet กับ Jump Squat
  • รวม 5 เซต เล่นแบบ “นับเวลา” 45 วินาทีต่อท่า / พัก 15 วิ

สูตรนี้ช่วยให้เผาผลาญพร้อมปั้นทรงขา เหมาะกับช่วงลดไขมันที่ยังอยากให้กล้ามขึ้นลาย

สรุปจากโค้ชปุนิ่ม: ทำไม Hack Squat ถึงควรเป็นท่าประจำ

“ถ้าคุณอยากเห็นทรงชัด แต่ไม่อยากเจ็บหลัง ไม่อยากแบกบาร์ Hack Squat คือคำตอบ”

โค้ชปูนิ่ม - น.ส.มนัสนันท์ อรรณพวรรณ

นักกีฬาเพาะกายหญิง รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ในการแข่งขันมิสเตอร์ไทยแลนด์ 2025

ปูเชื่อว่า "ไม่ว่าคุณจะเริ่มต้นจากศูนย์ หรือเคยล้มเหลวกี่ครั้ง ถ้าคุณไม่หยุดพยายาม สักวันร่างกายของคุณจะเปลี่ยนไปได้แน่นอน โค้ชพร้อมอยู่ข้าง ๆ และจะพาทุกคนไปให้ถึงเป้าหมายไปด้วยกันค่ะ"

ดูโปรไฟล์โค้ชปูนิ่ม